วิธีปลูกและดูแลจามาคารู Cereus jamacaru


ต้นไม้และสวน > วิธีปลูกและดูแลจามาคารู Cereus jamacaru
24/04/2025 11:43 41

เมื่อพูดถึงจามาคารูหนามกุดที่กำลังเป็นที่นิยม ทุกคนรู้หรือไม่ครับว่าจริงๆแล้วมาจากจามาคารูหนามยาว Cereus Jamacaru วันนี้พามาทำความรู้จักกับจามาคารูกัน

 

 

ต้นกำเนิดของจามาคารูหนามกุด

 

  • เดิมทีสายพันธุ์ดั้งเดิม Cereus jamacaru มาจาก บราซิล โดยเฉพาะในภูมิภาคเขตร้อนและกึ่งแห้งแล้ง เช่น พื้นที่เซอราดู (Cerrado) และคาอาติงกา (Caatinga) ซึ่งเป็นเขตธรรมชาติในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของบราซิล

  • ส่วน หนามกุด หรือ “Short Spine” เป็นลักษณะ “กลายพันธุ์” ทางธรรมชาติหรือเกิดจากการคัดพันธุ์โดยมนุษย์ ซึ่งเน้นความแปลก เช่น

    • หนามสั้นหรือเกือบไม่มีหนาม

    • ลำต้นอวบแน่น รูปร่างไม่สมมาตร (บางต้นจะดูแปลกตา)

  • มีการเพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์กันมากใน ญี่ปุ่น, ไทย, เกาหลี และจีน จนได้รับความนิยมในกลุ่มนักสะสมไม้ประหลาด (mutant cactus)

 

 

ความแตกต่างจากจามาคารูปกติ

 

ลักษณะ จามาคารูธรรมดา จามาคารูหนามกุด
หนาม ยาว แหลม คม สั้นมาก หรือแทบไม่มี
ลำต้น ทรงสูง เพรียว อวบ กลม บิดเบี้ยว
สี เขียวอ่อนถึงเข้ม เขียวเข้มอมเทา หรือมีลายขาว
ความนิยม ทั่วไป นิยมในกลุ่มไม้แปลก

 

 

การปลูกในประเทศไทย

 

 

จามาคารูสามารถปลูกในประเทศไทยได้ดี เพราะทนแล้งและแดดจัดได้เยี่ยม เหมาะกับอากาศร้อนชื้นของบ้านเรา โดยเฉพาะภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

 

วิธีการปลูกจามาคารู

 

  • ปลูกจากเมล็ด: แช่เมล็ดในน้ำ 1 คืน แล้วเพาะในดินร่วนผสมทราย รดน้ำพอชื้น

  • ปลูกจากกิ่ง: ตัดกิ่งที่แข็งแรง ปล่อยให้แห้ง 2-3 วัน แล้วนำลงดิน

  • ใช้กระถางลึก หรือปลูกลงดินในสวนได้เลย

 

 

การดูแลต้นจามาคารู

 

  • แสงแดด: ชอบแดดจัดมาก ควรวางไว้ที่โดนแดดทั้งวัน

  • น้ำ: รดน้ำ 1-2 ครั้ง/สัปดาห์ ไม่ควรรดบ่อยจนแฉะ

  • ดิน: ดินร่วนปนทราย หรือดินสำหรับกระบองเพชร ระบายน้ำดี

  • ปุ๋ย: ใส่ปุ๋ยสูตรเสมอ (เช่น 15-15-15) เดือนละครั้ง

  • ศัตรูพืช: เพลี้ยแป้งอาจมาเกาะบ้าง ควรหมั่นตรวจ

 

 

การออกดอกและผล

 

  • ออกดอกช่วงฤดูร้อนถึงต้นฝน

  • ดอกมีขนาดใหญ่ สีขาว มีกลิ่นหอม ออกตอนกลางคืน

  • หลังดอกบาน จะติดผลเป็นลูกกลมเล็ก สีม่วงเข้มหรือแดง มีเนื้อหวานและเมล็ดเล็กๆ คล้ายผลของพวกตะบองเพชร

 

การบานของดอกจามาคารู

 

 

  1. เวลาที่ดอกบาน
    ดอกของจามาคารูจะบานในช่วงกลางคืน (ช่วง 7 โมงเย็นถึง 8 โมงเช้า) โดยเริ่มจากการบานในช่วงเย็นและจะค่อยๆ เปิดเต็มที่ในช่วงกลางคืน ดอกจะบานอยู่ประมาณ 1-2 วันเท่านั้น

  2. ลักษณะของดอก

    • ดอกมีขนาดใหญ่ (ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 15-25 เซนติเมตร)

    • สีดอกจะเป็นสีขาวหรือสีครีม มีเส้นใยสีเหลืองบริเวณก้านดอก

    • ดอกมักมี กลิ่นหอม ที่ดึงดูดแมลงเช่นผึ้งและมวนชนิดต่างๆ มาเพื่อช่วยผสมเกสร

  3. ระยะเวลาในการบาน
    ดอกจะบานเพียงครั้งเดียว และเมื่อดอกโรยแล้วมันจะไม่กลับมาบานใหม่ในครั้งถัดไป

 

 

การติดผลของจามาคารู

 

  1. การผสมเกสร

    • กระบองเพชรจามาคารูจะติดผลได้หากได้รับการผสมเกสรจากแมลงหรือแม้กระทั่งมนุษย์ที่ช่วยในการผสมเกสรด้วยมือ

    • ผลจะเริ่มเติบโตหลังจากที่ดอกโรย โดยจะเริ่มจากการพัฒนาเป็นผลที่มีลักษณะคล้ายผลไม้เล็กๆ

  2. การติดผล

    • ผลของจามาคารูจะมีขนาดใหญ่และสามารถโตได้ถึง 15-20 เซนติเมตร โดยอาจมีลักษณะคล้ายผลไม้สีเขียวหรือสีเหลืองเมื่อสุก

    • ผลจะมีลักษณะเปลือกแข็งภายในมีเมล็ดหลายเมล็ด

    • หลังจากผลสุกเต็มที่ประมาณ 3-6 เดือน ผลสามารถตกลงพื้นหรือถูกเก็บเกี่ยวได้

  3. การเพาะพันธุ์จากผล

    • เมล็ดที่ได้จากผลสามารถนำมาเพาะปลูกเพื่อขยายพันธุ์ได้

    • ผลของจามาคารูบางครั้งใช้ในการผลิตเมล็ดพันธุ์หรือขยายพันธุ์เพื่อการเก็บสะสมไม้ประดับ

 

 

 

 

 


ให้คะแนนความพึงพอใจของคุณกับบทความนี้

Star 1 Star 2 Star 3 Star 4 Star 5

แสดงความคิดเห็น
อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

CAPTCHA