|
ดูทั้งหมด |
![]() สถานี Supercharger ของ Tesla ในประเทศไทย Tesla Supercharger คือ เครือข่ายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบ DC Fast Charge (ชาร์จเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง) ที่ Tesla สร้างขึ้นมาโดยเฉพาะสำหรับเจ้าของรถยนต์ Tesla ทั่วโลก เป้าหมายหลักของ Supercharger คือการมอบความสะดวกสบายและความรวดเร็วในการชาร์จ ทำให้เจ้าของรถ Tesla สามารถเดินทางระยะไกลได้อย่างไร้กังวล คุณสมบัติและสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ Tesla Supercharger ความเร็วในการชาร์จสูง: Supercharger สามารถจ่ายพลังงานได้สูง ทำให้สามารถชาร์จรถ Tesla จากแบตเตอรี่ระดับต่ำไปถึงระดับที่ใช้งานได้ในเวลาอันรวดเร็ว โดยรุ่น V3 Supercharger ในปัจจุบันสามารถจ่ายไฟได้สูงสุดถึง 250 kW ซึ่งสามารถเพิ่มระยะทางวิ่งได้ถึง 200 ไมล์ (ประมาณ 320 กิโลเมตร) ภายในเวลาเพียง 15 นาที (ขึ้นอยู่กับรุ่นรถและสถานะแบตเตอรี่) เครือข่ายครอบคลุม: Tesla ได้ลงทุนสร้างเครือข่าย Supercharger อย่างกว้างขวางทั่วโลก ตามเส้นทางการเดินทางหลักและในเมืองสำคัญต่างๆ เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงสถานีชาร์จได้อย่างสะดวก ใช้งานง่าย: การใช้งาน Supercharger นั้นง่ายดาย เพียงแค่เสียบสายชาร์จเข้ากับรถ ระบบจะทำการระบุรถและเริ่มการชาร์จโดยอัตโนมัติ (สำหรับรถ Tesla รุ่นใหม่ๆ ที่มีการตั้งค่าการชำระเงินในแอปพลิเคชันแล้ว) ระบบนำทางในรถยนต์: รถยนต์ Tesla ทุกคันมีระบบนำทางที่สามารถระบุตำแหน่งสถานี Supercharger ที่ใกล้ที่สุด และวางแผนการเดินทางโดยคำนึงถึงจุดชาร์จระหว่างทางได้ ค่าบริการ: การชาร์จที่สถานี Supercharger มีค่าบริการ ซึ่งจะคิดตามปริมาณไฟฟ้าที่ใช้ (บาทต่อ kWh) หรืออาจคิดตามเวลาในการชาร์จในบางพื้นที่ ราคาอาจแตกต่างกันไปในแต่ละสถานีและช่วงเวลา Idle Fee (ค่าจอดแช่): หากรถชาร์จเต็มแล้วแต่ยังคงจอดอยู่ที่ช่องจอด Supercharger จะมีการคิดค่า Idle Fee เพื่อให้ผู้ใช้งานคนอื่นๆ สามารถเข้าใช้สถานีได้ Supercharger สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์อื่น: ในบางสถานี Tesla ได้เริ่มเปิดให้รถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์อื่นที่รองรับหัวชาร์จ CCS สามารถใช้งาน Supercharger ได้ (อาจต้องใช้แอปพลิเคชัน Tesla ในการจัดการการชำระเงิน) |
![]() เทสลา โมเดล วาย 2025 - Tesla Model Y (Juniper) 2025 Tesla Model Y Juniper 2025 เป็นการปรับโฉมครั้งใหญ่ของรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นยอดนิยม โดยมีการปรับปรุงทั้งภายนอกและภายใน รวมถึงเทคโนโลยีและประสิทธิภาพการขับขี่ เพื่อให้ตอบโจทย์ผู้ใช้ในยุคใหม่ได้อย่างครบถ้วน ดีไซน์ภายนอกที่เฉียบคมและล้ำสมัย รูปลักษณ์ที่ได้รับการปรับปรุง: Juniper มาพร้อมกับการปรับปรุงดีไซน์ภายนอกให้มีความเฉียบคมและล้ำสมัยยิ่งขึ้น ไฟหน้าและไฟท้ายได้รับการออกแบบใหม่ให้ดูเพรียวบางและดุดันมากขึ้น เส้นสายโดยรวมของตัวรถมีความไหลลื่นตามหลักอากาศพลศาสตร์ ช่วยลดแรงต้านและเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ รายละเอียดที่น่าดึงดูด: สังเกตได้ถึงการปรับปรุงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่เพิ่มความหรูหราและสปอร์ตให้กับตัวรถ เช่น กันชนหน้าและหลังดีไซน์ใหม่ ล้ออัลลอยลายใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อเสริมบุคลิกของรถ และอาจมีสีตัวถังใหม่ๆ ให้เลือกเพื่อแสดงความเป็นตัวคุณ ความสะดวกสบายในการใช้งาน: นอกจากความสวยงามแล้ว Model Y Juniper ยังคงรักษาความสะดวกสบายในการใช้งาน เช่น ประตูท้ายไฟฟ้าที่เปิด-ปิดได้ง่ายดาย และพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทำให้คุณพร้อมสำหรับทุกการเดินทาง ภายในห้องโดยสารที่หรูหราและเทคโนโลยีล้ำสมัย ดีไซน์ Minimalist ที่เน้นความสบาย: ภายในห้องโดยสารของ Juniper ยังคงเน้นดีไซน์แบบ Minimalist แต่ได้รับการปรับปรุงให้มีความหรูหราและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น วัสดุที่ใช้มีความพรีเมียมมากขึ้น และการจัดวางอุปกรณ์ต่างๆ เป็นระเบียบใช้งานง่าย หน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่: หัวใจสำคัญของห้องโดยสารคือหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่กลางคอนโซล ที่ควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ของรถได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นระบบนำทาง ระบบความบันเทิง การตั้งค่ารถ และอื่นๆ อีกมากมาย เทคโนโลยีที่เหนือกว่า: Autopilot และ Full Self-Driving (FSD): ระบบขับขี่อัตโนมัติที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้การขับขี่สะดวกสบายและปลอดภัยยิ่งขึ้น (FSD เป็นออปชันเพิ่มเติม) Over-the-Air Updates (OTA): รถของคุณจะได้รับการอัปเดตซอฟต์แวร์อยู่เสมอ ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้รับฟีเจอร์ใหม่ๆ และการปรับปรุงประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง Premium Connectivity: เชื่อมต่อโลกดิจิทัลได้อย่างราบรื่นด้วยระบบนำทางแบบเรียลไทม์ การสตรีมเพลงและวิดีโอ และอื่นๆ อีกมากมาย ระบบเสียงคุณภาพสูง: เพลิดเพลินกับประสบการณ์เสียงที่ยอดเยี่ยมด้วยระบบเสียงรอบทิศทางที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับ Model Y ความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสาร: พื้นที่วางขาที่กว้างขวาง เบาะนั่งที่ออกแบบมาอย่างดี และหลังคาแก้วพาโนรามาขนาดใหญ่ (บางรุ่น) ทำให้ทุกการเดินทางเต็มไปด้วยความสะดวกสบายและผ่อนคลาย สมรรถนะที่เร้าใจและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พลังขับเคลื่อนไฟฟ้าที่ทรงพลัง: Model Y Juniper มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าที่ให้แรงบิดมหาศาลและอัตราเร่งที่น่าประทับใจในทุกรุ่นย่อย คุณจะสัมผัสได้ถึงความคล่องตัวและการตอบสนองที่รวดเร็ว ระยะทางวิ่งที่น่าประทับใจ: ด้วยเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง Juniper จะมีระยะทางวิ่งต่อการชาร์จหนึ่งครั้งที่ไกลขึ้น ทำให้คุณหมดกังวลเรื่องระยะทางในการเดินทาง การชาร์จที่สะดวกและรวดเร็ว: Tesla มีเครือข่าย Supercharger ที่ครอบคลุมทั่วโลก ทำให้การชาร์จรถของคุณเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว นอกจากนี้คุณยังสามารถชาร์จที่บ้านหรือที่สถานีชาร์จอื่นๆ ได้อีกด้วย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: การขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าหมายถึงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัยที่เหนือชั้น โครงสร้างที่แข็งแกร่ง: Model Y ได้รับการออกแบบให้มีโครงสร้างที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษ เพื่อปกป้องผู้โดยสารในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ระบบความปลอดภัยขั้นสูง: มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันและเชิงรับที่ทันสมัยมากมาย เช่น ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ ระบบเตือนการชน ระบบควบคุมเสถียรภาพ และถุงลมนิรภัยรอบคัน Vision Safety: ใช้กล้องและเซ็นเซอร์รอบคันเพื่อตรวจจับสภาพแวดล้อมและช่วยให้ระบบความปลอดภัยต่างๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งที่น่าสนใจใน Model Y Juniper 2025 ที่น่าจับมองเราสรุปมาให้ดูกันครับว่าผู้อ่านชอบข้อดีไหนบ้าง เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย: สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้นและปลอดภัยยิ่งขึ้น สมรรถนะที่เร้าใจ: สนุกกับการขับขี่ที่ทรงพลังและคล่องตัว พร้อมอัตราเร่งที่ทำให้คุณยิ้มได้ทุกครั้งที่กดคันเร่ง ดีไซน์ที่โดดเด่น: ทั้งภายนอกและภายในได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน ให้ความรู้สึกหรูหราและล้ำสมัย ความสะดวกสบายในการใช้งาน: พื้นที่กว้างขวาง ฟังก์ชันที่ใช้งานง่าย และระบบชาร์จที่สะดวกสบาย ทำให้ทุกการเดินทางเป็นเรื่องง่าย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนสู่อนาคตที่ยั่งยืนด้วยพลังงานไฟฟ้าสะอาด Model Y Juniper 2025 ไม่ได้เป็นแค่รถยนต์ แต่เป็นประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่า ผสมผสานเทคโนโลยี สมรรถนะ ความปลอดภัย และความยั่งยืนเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว หากคุณกำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้า SUV ที่ตอบโจทย์ทุกด้าน Model Y Juniper คือตัวเลือกที่ไม่ควรพลาดครับ |
![]() ชวนมาทำความรู้จัก ประวัติปราสาทโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle / 大阪城 - Ōsaka-jō) เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น และยังเป็นสัญลักษณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นอีกด้วย ปราสาทโอซาก้าเป็นปราสาทที่สร้างขึ้นในยุคสงครามกลางเมืองญี่ปุ่น (ยุคเซ็นโกกุ) เพื่อเป็นศูนย์กลางการปกครองและแสดงถึงอำนาจของผู้นำในขณะนั้น ปัจจุบันปราสาทนี้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงประวัติศาสตร์ต่างๆ และล้อมรอบด้วยสวนสาธารณะขนาดใหญ่ เป็นจุดชมวิวและจุดถ่ายรูปยอดนิยม ประวัติความเป็นมาของปราสาทโอซาก้า เริ่มสร้างในปี ค.ศ. 1583 โดย โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ (Toyotomi Hideyoshi) ขุนพลผู้รวมประเทศญี่ปุ่น เขาสร้างปราสาทนี้บนพื้นที่เดิมของวัดอิชิยามะ ฮงกันจิ ฮิเดโยชิต้องการให้ปราสาทนี้เป็นศูนย์กลางอำนาจและใหญ่กว่าปราสาทอาซุจิของโอดะ โนบุนางะ ในปี 1615 ปราสาทถูกทำลายโดยโตกุงาวะ อิเอยาสึ (Tokugawa Ieyasu) หลังจากสงครามฤดูร้อนแห่งโอซาก้า ถูกสร้างขึ้นใหม่อีกครั้งในสมัยโชกุนโตกุงาวะ แต่ก็ได้รับความเสียหายจากฟ้าผ่าในปี 1665 ปัจจุบันที่เห็นอยู่เป็นโครงสร้างที่บูรณะขึ้นใหม่ ในปี ค.ศ. 1931 และมีการซ่อมแซมเพิ่มเติมจนกลายเป็นพิพิธภัณฑ์สมัยใหม่ ประวัติของปราสาทโอซาก้า ไล่ลำดับตามเหตุการณ์ จุดเริ่มต้น: ยุคเซ็นโกกุ (Sengoku Period) ปี ค.ศ. 1583: โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ (Toyotomi Hideyoshi) เริ่มก่อสร้างปราสาทโอซาก้า บนพื้นที่ของวัดเก่า อิชิยามะ ฮงกันจิ (Ishiyama Hongan-ji) ซึ่งเคยเป็นฐานของนิกายโจโดะ ชินชู และถูกโอดะ โนบุนางะทำลายลงในปี 1580 ฮิเดโยชิสร้างปราสาทโอซาก้าเพื่อแสดงอำนาจและเป็นฐานกำลังหลักของการรวมชาติ ปราสาทนี้ได้รับแรงบันดาลใจจาก ปราสาทอาซุจิ (Azuchi Castle) ของโอดะ โนบุนางะ แต่สร้างใหญ่กว่าและแข็งแรงกว่า การก่อสร้างอันยิ่งใหญ่ ปราสาทใช้หินขนาดยักษ์ และกำแพงหินสูงใหญ่เพื่อป้องกันข้าศึก ล้อมรอบด้วยคูน้ำสองชั้นและกำแพงหนา เพื่อป้องกันการโจมตี หอคอยหลัก (Tenshukaku) เดิมสูง 5 ชั้นด้านนอก (แต่ 8 ชั้นด้านใน) เป็นจุดที่สามารถมองเห็นเมืองได้ทั่ว ช่วงสงครามและการล่มสลายของตระกูลโทโยโทมิ ปี 1598: ฮิเดโยชิเสียชีวิต ลูกชายของเขา "โทโยโทมิ ฮิเดโยริ (Toyotomi Hideyori)" สืบทอดปราสาท ปี 1614-1615: สงครามฤดูหนาวและฤดูร้อนแห่งโอซาก้า (Osaka Winter & Summer Campaigns) โตกุงาวะ อิเอยาสึ (Tokugawa Ieyasu) โจมตีเพื่อล้างตระกูลโทโยโทมิ ในที่สุด ปราสาทถูกทำลาย และโทโยโทมิ ฮิเดโยริ กับแม่ของเขาฆ่าตัวตาย นี่ถือเป็นการสิ้นสุดของตระกูลโทโยโทมิ และเริ่มยุคสงบของโชกุนโตกุงาวะ การฟื้นฟูในยุคโตกุงาวะ ปี 1620-1629: โชกุนโตกุงาวะให้ฟื้นฟูปราสาทโอซาก้าใหม่ทั้งหมด สร้างหอคอยและสิ่งปลูกสร้างใหม่ แต่ไม่ได้เป็นศูนย์กลางการปกครองอีกต่อไป ปี 1665: หอคอยหลักถูกฟ้าผ่าทำให้ไฟไหม้และพังทลาย ไม่ได้บูรณะขึ้นใหม่ในช่วงนั้น ช่วงปลายยุคเอโดะ – ปฏิรูปเมจิ ปราสาทถูกใช้เป็นฐานทหารและคลังแสง หลังยุคโชกุนสิ้นสุดในปี 1868 และเริ่มยุคเมจิ ปราสาทถูกควบคุมโดยกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่น อาคารจำนวนมากถูกรื้อทิ้ง ฟื้นฟูในยุคสมัยใหม่ ปี 1931: รัฐบาลเมืองโอซาก้าบูรณะหอคอยหลักขึ้นใหม่ โดยใช้โครงสร้างเหล็กและคอนกรีตแบบสมัยใหม่ พร้อมลิฟต์ สงครามโลกครั้งที่ 2: พื้นที่รอบปราสาทถูกโจมตีและได้รับความเสียหายจากการทิ้งระเบิด ปี 1995-1997: มีการบูรณะครั้งใหญ่ให้คงสภาพตามสถาปัตยกรรมดั้งเดิม และปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์ทันสมัย ปราสาทโอซาก้าในปัจจุบัน เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงประวัติศาสตร์ยุคเซ็นโกกุ ด้านบนสุดเป็นจุดชมวิว 360 องศา รอบๆ ปราสาทมีสวน Nishinomaru Park ที่เต็มไปด้วยดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิ เป็นหนึ่งในสถานที่ประวัติศาสตร์ที่คนญี่ปุ่นให้ความเคารพและนักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด การท่องเที่ยวที่ปราสาทโอซาก้า เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน เวลา 9:00 – 17:00 น. (เข้ารอบสุดท้ายก่อนปิด 30 นาที) ปิดเฉพาะช่วงสิ้นปี (ประมาณปลาย ธ.ค. ถึงต้น ม.ค.) สิ่งที่น่าสนใจภายในปราสาท: พิพิธภัณฑ์ที่แสดงประวัติของโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ นิทรรศการเกี่ยวกับยุทธศาสตร์สงครามและวัฒนธรรมในยุคนั้น จุดชมวิวที่ชั้นบนสุด สามารถมองเห็นเมืองโอซาก้าแบบพาโนรามา บริเวณรอบปราสาท: สวน Nishinomaru (นิชิโนะมารุ) ซึ่งมีต้นซากุระกว่า 600 ต้น บานในฤดูใบไม้ผลิ ลานกว้างเหมาะแก่การเดินเล่น ถ่ายภาพ ปิกนิก การเดินทาง: จากสถานี Osaka Castle Park (JR) หรือ Morinomiya Station (JR / Subway) เดินประมาณ 10 นาที |
![]() Tesla Model 3 หรือ Model Y เลือกรุ่นไหนดี ? การเลือกระหว่าง Tesla Model 3 และ Model Y ขึ้นอยู่กับความต้องการและลักษณะการใช้งานของคุณ โดยทั้งสองรุ่นมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน Tesla Model 3 ข้อดี ราคาเริ่มต้นที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า Model Y มีขนาดที่คล่องตัวกว่า เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมือง มีสมรรถนะการขับขี่ที่ปราดเปรียวและคล่องตัว วิ่งได้ระยะทางที่ไกลกว่า Model Y ในรุ่นแบตเตอรี่เดียวกัน ขับสนุกกว่า เพราะตัวรถเตี้ย น้ำหนักเบากว่า แอโรไดนามิกดีกว่า ประหยัดพลังงานกว่า วิ่งได้ไกลกว่า อัตราเร่งดีมาก (โดยเฉพาะรุ่น Performance) ข้อเสีย พื้นที่เก็บสัมภาระน้อยกว่า Model Y พื้นที่โดยสารตอนหลังอาจไม่กว้างขวางเท่า Model Y ระยะห่างจากพื้นที่ต่ำกว่า Model Y ที่นั่งต่ำกว่า อาจไม่สะดวกสำหรับผู้สูงอายุ Tesla Model Y ข้อดี มีพื้นที่เก็บสัมภาระและพื้นที่โดยสารที่กว้างขวางกว่า มีรูปลักษณ์แบบ SUV ที่ดูแข็งแกร่งและอเนกประสงค์ ระยะห่างจากพื้นมากกว่า Model 3 ทำให้ลุยทางขรุขระได้ดีกว่า ตำแหน่งที่นั่งสูงกว่า วิสัยทัศน์ดี นั่งสบายขึ้น มีรุ่น 7 ที่นั่ง (สำหรับครอบครัวใหญ่) ข้อเสีย ราคาสูงกว่า Model 3 มีขนาดที่ใหญ่กว่า ทำให้การขับขี่ในเมืองอาจไม่คล่องตัวเท่า Model 3 วิ่งได้ระยะทางที่สั้นกว่า Model 3 ในรุ่นแบตเตอรี่เดียวกัน อัตราเร่งช้ากว่านิดหน่อย ไม่คล่องตัวเท่า Model 3 ในการขับขี่โค้งแรงๆ การเลือก Tesla Model 3 หรือ Model Y ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลักที่คุณให้ความสำคัญ เช่น งบประมาณ, ความสะดวกสบาย, การขับขี่, พื้นที่เก็บของ และ ประสิทธิภาพแบตเตอรี่ |
![]() เที่ยวโอซาก้า ญี่ปุ่น 2025 (7 วัน) EP.3 เพลิดเพลินสวนสนุกในโลก Universal Studios Japan ช่วงต้นปีของโอซาก้า มีอากาศค่อนข้างหนาวเย็นเป็นอีกหนึ่งฤดูที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวญี่ปุ่น สำหรับทริปการท่องเที่ยวต้นปีนี้เลือกที่จะไปท่องเที่ยวพักผ่อนต่างประเทศที่ญี่ปุ่นครับ และเมืองที่เลือกไปคีือ โอซาก้า พวกเรามีแพลนไปเที่ยวโอซาก้าทั้งหมด 7 วัน 6 คืน เริ่มออกเดินทางวันที่ 17 กุมภาพันธ์ เวลาตี 1 ใช้เวลาเดินทางถึงสนามบิน Kansai International Airport จำนวน 6 ชั่วโมง ทริปนี้เราเลือกที่นั่ง Business ของสายการบิน Air Asia เป็นแบบเบาะนอนทำให้ตอนเราอยู่บนเครื่องบินไปถึงญี่ปุ่นไม่รู้สึกเหนื่อยล้าจากการขึ้นเครื่อง เมื่อไปถึงญี่ปุ่นก็พร้อมลุยกันได้เลย นี่คือข้อดี |
![]() เที่ยวโอซาก้า ญี่ปุ่น 2025 (7 วัน) EP.2 ตะลุยท่องดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ช่วงต้นปีของโอซาก้า มีอากาศค่อนข้างหนาวเย็นเป็นอีกหนึ่งฤดูที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวญี่ปุ่น สำหรับทริปการท่องเที่ยวต้นปีนี้เลือกที่จะไปท่องเที่ยวพักผ่อนต่างประเทศที่ญี่ปุ่นครับ และเมืองที่เลือกไปคีือ โอซาก้า พวกเรามีแพลนไปเที่ยวโอซาก้าทั้งหมด 7 วัน 6 คืน เริ่มออกเดินทางวันที่ 17 กุมภาพันธ์ เวลาตี 1 ใช้เวลาเดินทางถึงสนามบิน Kansai International Airport จำนวน 6 ชั่วโมง ทริปนี้เราเลือกที่นั่ง Business ของสายการบิน Air Asia เป็นแบบเบาะนอนทำให้ตอนเราอยู่บนเครื่องบินไปถึงญี่ปุ่นไม่รู้สึกเหนื่อยล้าจากการขึ้นเครื่อง เมื่อไปถึงญี่ปุ่นก็พร้อมลุยกันได้เลย นี่คือข้อดี |
![]() เที่ยวโอซาก้า ญี่ปุ่น 2025 (7 วัน) EP.1 Osaka ที่รัก ช่วงต้นปีของโอซาก้า มีอากาศค่อนข้างหนาวเย็นเป็นอีกหนึ่งฤดูที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวญี่ปุ่น สำหรับทริปการท่องเที่ยวต้นปีนี้เลือกที่จะไปท่องเที่ยวพักผ่อนต่างประเทศที่ญี่ปุ่นครับ และเมืองที่เลือกไปคีือ โอซาก้า พวกเรามีแพลนไปเที่ยวโอซาก้าทั้งหมด 7 วัน 6 คืน เริ่มออกเดินทางวันที่ 17 กุมภาพันธ์ เวลาตี 1 ใช้เวลาเดินทางถึงสนามบิน Kansai International Airport จำนวน 6 ชั่วโมง ทริปนี้เราเลือกที่นั่ง Business ของสายการบิน Air Asia เป็นแบบเบาะนอนทำให้ตอนเราอยู่บนเครื่องบินไปถึงญี่ปุ่นไม่รู้สึกเหนื่อยล้าจากการขึ้นเครื่อง เมื่อไปถึงญี่ปุ่นก็พร้อมลุยกันได้เลย นี่คือข้อดี |
![]() ออนเซ็น ม่อนแจ่ม ที่พักหน้าหนาว เชียงใหม่ ออนเซ็น ม่อนแจ่ม ตั้งอยู่ที่อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ที่นี่ได้รับแรงบันดาลใจจากออนเซ็นแบบญี่ปุ่น สร้างขึ้นท่ามกลางธรรมชาติบนยอดเขาม่อนแจ่มที่สูงประมาณ 1,200 เมตรจากระดับน้ำทะเล ให้บรรยากาศที่เย็นสบายเกือบตลอดทั้งปี ซึ่งทำให้ออนเซ็นแห่งนี้เป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายในเมืองและผ่อนคลายด้วยธรรมชาติ |
![]() พาเที่ยว Arte Museum Gangneung เมือง กังนึง จังหวัด คังวอน เกาหลีใต้ Arte Museum Gangneung ตั้งอยู่ที่ ทะเลสาบเกียนโป ในเมือง กังนึง จังหวัด คังวอน ประเทศเกาหลีใต้ เปิดให้บริการในเดือนธันวาคม ปี 2021 โดยเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มอบประสบการณ์ศิลปะดิจิทัลที่ผสมผสานระหว่างภาพ เสียง และกลิ่น โดยเฉพาะการจัดแสดงสื่อศิลป์ที่สามารถสัมผัสได้ทุกประสาทสัมผัส |
![]() พาเที่ยว เกาะนามิ (Nami Island) เกาหลีใต้ กาะนามิ (Nami Island) เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของประเทศเกาหลีใต้ โดยเฉพาะสำหรับคนที่ชื่นชอบธรรมชาติและความสงบ เกาะนี้มีชื่อเสียงในฐานะเป็นสถานที่ถ่ายทำซีรีส์ชื่อดังของเกาหลีเรื่อง Winter Sonata เกาะนี้จึงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่โด่งดังไปทั่วโลก ประวัติของเกาะนามิ เกาะนามิได้รับการตั้งชื่อตามนายพลนามี ซึ่งเป็นขุนพลที่มีชื่อเสียงในสมัยราชวงศ์โชซอน เกาะนี้เดิมเป็นส่วนหนึ่งของแม่น้ำฮัน แต่เนื่องจากการสร้างเขื่อนชองพยอง (Cheongpyeong Dam) ทำให้พื้นที่ดังกล่าวกลายเป็นเกาะ เกาะนามิมีรูปร่างคล้ายครึ่งวงกลม จึงมีชื่อเรียกว่า "เกาะพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว" การเดินทางไปเกาะนามิ จากกรุงโซลสามารถเดินทางไปเกาะนามิได้โดยใช้รถไฟหรือรถบัส: รถไฟ: ขึ้นรถไฟสาย Gyeongchun Line จากสถานี Sangbong หรือสถานี Cheongnyangni ไปยังสถานี Gapyeong ซึ่งเป็นสถานีที่ใกล้ที่สุดกับเกาะนามิ จากนั้นต่อรถแท็กซี่หรือรถบัสไปยังท่าเรือข้ามฟาก รถบัส: มีรถบัสบริการตรงจากกรุงโซลไปยังท่าเรือเกาะนามิ เมื่อมาถึงท่าเรือ นักท่องเที่ยวต้องซื้อตั๋วเรือข้ามฟากเพื่อข้ามไปยังเกาะ โดยเรือใช้เวลาข้ามประมาณ 5 นาที สถานที่น่าสนใจบนเกาะนามิ ถนนเมเปิ้ลและถนนต้นแปะก๊วย: สองเส้นทางที่เป็นจุดไฮไลท์ของเกาะ เมเปิ้ลจะเปลี่ยนสีสวยงามในฤดูใบไม้ร่วง ส่วนต้นแปะก๊วยจะเป็นสีทองที่งดงาม สวนสาธารณะและพื้นที่ปิกนิก: เกาะนามิเป็นที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน มีสวนและพื้นที่ปิกนิกหลายแห่งที่นักท่องเที่ยวสามารถนั่งชิลล์ได้ สวนประติมากรรม: มีงานประติมากรรมมากมายที่ถูกจัดวางไว้ทั่วเกาะ บางงานมีขนาดใหญ่และมีความหมายเชิงสัญลักษณ์ พิพิธภัณฑ์และหอศิลป์: บนเกาะนามิมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะและหอศิลป์ขนาดเล็ก ซึ่งแสดงผลงานของศิลปินท้องถิ่นและศิลปินนานาชาติ ราคา ตั๋วเรือข้ามฟาก: ราคาประมาณ 13,000 วอน (ราว ๆ 350 บาทไทย) ซึ่งรวมค่าผ่านประตูเข้าชมเกาะแล้ว ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ: ขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่เลือก เช่น การเช่าจักรยาน การนั่งซิปไลน์ หรือการเข้าชมพิพิธภัณฑ์ เกาะนามิเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับการเที่ยวแบบครอบครัว คู่รัก หรือนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการสัมผัสธรรมชาติ |
![]() พาเที่ยว LEGOLAND ที่ประเทศเกาหลี บนเกาะโจนโด Legoland เกาหลี ตั้งอยู่ที่เมืองชุนชอน จังหวัดคังวอน เป็นสวนสนุกที่สร้างขึ้นบนเกาะโจนโด (Jeondot Island) กลางทะเลสาบ มีความพิเศษตรงที่เป็นสวนสนุกเลโก้แห่งแรกที่สร้างบนเกาะโดยเฉพาะ โซนต่างๆ ในสวนสนุก: Legoland เกาหลีแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากเลโก้ เช่น Miniland (สร้างเมืองต่างๆ ด้วยเลโก้), Lego Castle, Pirate Shores, Ninjago World, และอื่นๆ กิจกรรม: มีการแสดงโชว์และขบวนพาเหรดที่น่าสนใจ กิจกรรมเลโก้สร้างสรรค์ที่สามารถร่วมสนุกได้ และเครื่องเล่นต่างๆ เช่น รถไฟเหาะเลโก้ เรือโจรสลัด รถดับเพลิงฉีดน้ำและอื่นๆอีกมากมาย ครอบครัว: ที่นี่เหมาะกับครอบครัวที่มีเด็กๆ เพราะมีกิจกรรมที่เหมาะสมและสนุกสนานทั้งเด็กและผู้ใหญ่ การเดินทาง: สามารถเดินทางจากโซลไปยังชุนชอนได้โดยใช้รถไฟ KTX หรือ ITX ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง เวลาที่เหมาะสม: แนะนำให้ไปช่วงฤดูใบไม้ผลิหรือฤดูใบไม้ร่วง อากาศจะเย็นสบาย เหมาะกับการเที่ยวสนุกตลอดทั้งวัน เดินมาด้านโซนหน้าจะมีการจัดแสดงต่อเลโก้เป็นเมืองต่างๆในประเทศเกาหลี สวยและอลังการมาก เหมือนหลุดเข้าไปแต่ละสถานที่เลย แต่จำลองมาให้อยู่ในที่เดียวกัน xxxxxเดินวนมาหน้าหมู่บ้าน Lego City จะพบกับกิจกรรมเล่นรถดับเพลิงฉีดน้ำ โดยสามารถต่อแถวเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมได้ อารมณ์ประมาณโยกๆ คันรถให้ไปถึงจุดเกิดเหตุไฟไหม แล้วยิงน้ำใส่ไฟดิจิตอลเพื่อให้ดับ เล่นเพลินๆดีจุดนี้xx อีกจุดที่เด็กและผู้ใหญ่มาร่วมเล่นเยอะก็คือ รถไฟเหาะ นั่นเอง ใครมาแล้วห้ามพลาด ไม่อันตรายมากเพราะไม่สูงมากจนเกินไป และสามารถต่อคิวมาวนเล่นได้หลายรอบเรื่อยๆเลย ก่อนจะออกไปที่รางรถไฟ จะผ่านอุโมงค์ดูเหล่า Lego man แต่ละจุดเพื่อเพิ่มความตื่นเต้นก่อนจะออกจากอุโมงค์เพื่อไปที่ราง จุดนี้นั่งรถไฟชมเพลินๆไปก่อน ช่วงจังหวะที่อยู่บนราง และเลี้ยวโค้งสนุกมาก ได้ความหวาดเสียว และตื่นเต้นดี หลังจากเล่นรถไฟเหาะแล้วพาเดินชม บรรยากาศโดยรอบ แนะนำจริงๆว่าควรมาในช่วงอากาศเย็นๆกันนะ เพราะว่าจะเดินสบายและชิลลสุดๆ จุดนี้เป็นกิจกรรม ควบม้าเล่นบนรางเดินรอบๆ สวน ได้ความสนุกเพลินๆไปอีกแบบ อาจจะเก็บภาพกิจกรรมทั้งหมดมาไม่ครบ เพราะว่าแต่ละจุดมีกิจกรรมให้เล่นเยอะมากจริงๆ บางโซนคนเยอะบ้าง น้อยบ้างไปแต่ละจุด แต่รับรองได้ว่ามากับครอบครัว หรือพาลูกๆ หลานๆ มาเที่ยวได้ความสนุกและต้องชื่นชอบอย่างแน่นอน ห้ามพลาดกันเลยกับสวนสนุก Legoland |
![]() [รีวิว] 9 คาเฟ่รอบเมืองกรุงเทพ ร้านเช็คอิน ถ่ายรูปสวยๆ 2567 กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีคาเฟ่หลากหลายแบบให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคาเฟ่ที่มีบรรยากาศสวยงาม คาเฟ่ที่เน้นกาแฟคุณภาพ หรือคาเฟ่ที่มีอาหารอร่อย ๆ เพื่อเสริมประสบการณ์การดื่มกาแฟ เลยลองมานั่งๆ ลิสคาเฟ่ที่เคยไปในรอบไม่กี่ปีที่ผ่านมา รอบกรุงเทพให้ทุกคน เป็นอีกตัวเลือกไปนั่งเช็คอิน ถ่ายรูปสวยๆกันได้เลย 1. ร้านเวทย์มนต์ คาเฟ่ แดนเนรมิต-VETMON Cafe Bangkok Dan Neramit 神奇之地 ร้านเวทย์มนต์ คาเฟ่ แดนเนรมิต (Witchs Brew & Brew) เป็นคาเฟ่ที่มีธีมเวทมนตร์และโลกแห่งจินตนาการ ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ บรรยากาศของร้านนี้จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในโลกแห่งความฝันที่เต็มไปด้วยเวทมนตร์และสิ่งแปลกประหลาด ร้านนี้เป็นที่นิยมสำหรับคนรักการถ่ายรูปและผู้ที่ต้องการประสบการณ์ใหม่ ๆ ในการดื่มกาแฟและทานขนม เค้กเห็บหมา ถึงรูปลักษณ์จะดูน่าเกลียดไปนิด แต่รสชาติอร่อยอยู่นะ เหล่าบรรดาพ่อมด มาร่ายมนต์ ร้องรำทำเพลงเอนเทอร์เทนลูกค้าในร้าน ที่ตั้ง: ตลาดนัดรถไฟ แดนเนรมิต พหลโยธิน 24 จุดเด่น: การตกแต่งภายในร้านเน้นไปที่ธีมเวทมนตร์ มีการใช้สีเข้มและของตกแต่งที่เกี่ยวกับเวทมนตร์ เช่น หนังสือเวทมนตร์, เครื่องราง, และอุปกรณ์เวทมนตร์ต่าง ๆ เมนู: มีเมนูเครื่องดื่มและขนมที่มีการตกแต่งอย่างสร้างสรรค์ เช่น เครื่องดื่มที่มีการใส่สีพิเศษ, ขนมที่มีรูปร่างคล้ายกับสิ่งของในโลกเวทมนตร์ 2. HOLIDAY PASTRY Flagship Store HOLIDAY PASTRY Flagship Store เป็นร้านขนมและเบเกอรี่ที่มีความโดดเด่นในด้านการสร้างสรรค์เมนูขนมหวานที่มีคุณภาพ และการตกแต่งร้านที่สวยงาม มีบรรยากาศที่อบอุ่นและเมนูขนมที่อร่อยหลากหลาย ที่ตั้ง: ในซอยเจริญนคร 10 จุดเด่น:บรรยากาศ: ร้านมีการตกแต่งที่ทันสมัยและอบอุ่น ใช้โทนสีอ่อนและวัสดุธรรมชาติ ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย เมนู: มีขนมอบและเบเกอรี่ที่หลากหลาย ทั้งครัวซองต์, เค้ก, ทาร์ต และคุกกี้ รวมถึงเครื่องดื่มต่าง ๆ เช่น กาแฟ, ชา, และน้ำผลไม้สด การนำเสนอ: การจัดจานและตกแต่งขนมมีความสวยงามและสร้างสรรค์ ทำให้ขนมทุกชิ้นดูน่าทานและเหมาะสำหรับการถ่ายรูป 3. kasnäsbkk เป็นร้านอาหารและคาเฟ่ที่นำเสนอประสบการณ์การรับประทานอาหารสไตล์สแกนดิเนเวีย ร้านนี้มีความโดดเด่นในเรื่องของการใช้วัตถุดิบคุณภาพและการตกแต่งที่ทันสมัย นอกจากอาหารล้ว ยังมีเมนูเครื่องดื่มที่หลากหลายและบรรยากาศที่อบอุ่นเหมาะสำหรับการนั่งพักผ่อนและพบปะสังสรรค์กับเพื่อน ๆ ที่ตั้ง: ถ. สาทรเหนือ แขวงสีลม เขตบางรัก จุดเด่น:บรรยากาศ: การตกแต่งภายในร้านเน้นความเรียบง่ายและทันสมัยในสไตล์สแกนดิเนเวีย ใช้สีขาว, เทา, และไม้ธรรมชาติ ทำให้บรรยากาศผ่อนคลายและอบอุ่น เมนูอาหาร: มีเมนูอาหารเช้า, อาหารกลางวัน, และอาหารเย็น เช่น แซนด์วิชเปิดหน้า, สลัด, ซุป และอาหารจานหลักที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่ เมนูเครื่องดื่ม: มีกาแฟ, ชา, น้ำผลไม้สด, และค็อกเทล 4. บีชชี่ คาเฟ่ เป็นร้านคาเฟ่ในกรุงเทพฯ ที่นำเสนอความรู้สึกเหมือนอยู่ริมชายหาด ด้วยการตกแต่งที่เน้นความสดใสและบรรยากาศที่ผ่อนคลาย ร้านนี้เป็นที่นิยมในหมู่คนรักการถ่ายรูปและผู้ที่ต้องการประสบการณ์ใหม่ ๆ ในการดื่มกาแฟและทานขนม ที่ตั้ง: บางขุนเทียน ท่าข้าม จุดเด่น:บรรยากาศ: การตกแต่งภายในร้านเน้นธีมชายหาด มีการใช้สีสันสดใส เช่น สีฟ้า, ขาว, และเหลือง รวมถึงการใช้วัสดุธรรมชาติเพื่อสร้างความรู้สึกเหมือนอยู่ริมทะเล เมนู: มีเมนูเครื่องดื่มและขนมที่หลากหลาย เช่น กาแฟ, ชา, สมูทตี้, และขนมอบต่าง ๆ 5. พลัซ์ บางขุนเทียน เป็นร้านคาเฟ่และร้านอาหารที่มีบรรยากาศสบาย ๆ และสวยงาม ตั้งอยู่ในย่านบางขุนเทียน กรุงเทพฯ ร้านนี้เป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่ต้องการสถานที่พักผ่อนและรับประทานอาหารอร่อย ๆ ในบรรยากาศที่เป็นกันเองและผ่อนคลาย ที่ตั้ง: ถนนบางขุนเทียน จุดเด่น:บรรยากาศ: ร้านมีการตกแต่งที่เน้นความเรียบง่ายและเป็นธรรมชาติ ใช้โทนสีอบอุ่น มีที่นั่งทั้งภายในและภายนอกร้าน ซึ่งสามารถมองเห็นวิวสวนและธรรมชาติได้ เมนู: มีเมนูอาหารและเครื่องดื่มที่หลากหลาย ทั้งอาหารไทย, อาหารฟิวชั่น, ของหวาน, และเครื่องดื่มต่าง ๆ เช่น กาแฟ, ชา, น้ำผลไม้สด 6. Peach Oriental Teahouse ที่ตั้ง: - จุดเด่น:บรรยากาศ: ร้านมีการตกแต่งที่นำเสนอสไตล์ตะวันออก ผสมผสานระหว่างความคลาสสิกและความทันสมัย ใช้โทนสีอบอุ่น มีการจัดที่นั่งที่สบาย และเหมาะสำหรับการนั่งพักผ่อนและดื่มชา เมนู: มีชาและเครื่องดื่มที่หลากหลาย รวมถึงของหวานและอาหารเบา ๆ ที่เหมาะกับการดื่มชา 7. Brooke Space ร้านนี้เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่มและของหวานอร่อยที่สามารถเลือกชิมได้หลายเมนู ที่ตั้ง: ลาดพร้าว 26 จุดเด่น:บรรยากาศ: บริเวณภายในร้านมีการตกแต่งอย่างสบายตาและเรียบๆสวยงาม ทำให้เป็นที่เหมาะสำหรับการทำงานหรือการพักผ่อน เครื่องดื่ม: มีเมนูเครื่องดื่มที่หลากหลาย เช่น กาแฟ, ชา, ลาเต้, โกโก้, และเมนูสุขภาพ 8. Jade Old Town เป็นร้านคาเฟ่ที่มีบรรยากาศอบอุ่นและเป็นสไตล์วินเทจ ตั้งอยู่ในย่านเมืองเก่าของกรุงเทพฯ ที่มีอาคารและถนนเก่าแก่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ร้านนี้เสนอเครื่องดื่มที่หลากหลายและขนมหวานที่อร่อย ที่ตั้ง: ถนนเจริญกรุง (ย่านเมืองเก่า), พระราม 4 เขต สัมพันธวงศ์ จุดเด่น:บรรยากาศ: ร้านมีบรรยากาศอบอุ่นและเป็นสไตล์วินเทจ มีการตกแต่งที่มีเอกลักษณ์และมุมมองที่สวยงามของย่านเมืองเก่า เครื่องดื่ม: มีเมนูเครื่องดื่มที่หลากหลาย เช่น กาแฟ, ชา, ลาเต้, และเครื่องดื่มสมุนไพร ขนมหวาน: มีขนมหวานอร่อย ๆ เสนอให้เลือกชิม เช่น คุ้กกี้, มัฟฟิน, และเค้กต่าง ๆ 9. B-Story Garden Cafe & Restaurants เป็นสถานที่พักผ่อนและรับประทานอาหารที่มีบรรยากาศสวนที่งดงาม ตั้งอยู่ที่ใจกลางเขตรามอินทรา ร้านนี้มักตกแต่งร้านตามเทศกาลต่างๆ ได้อย่างอลังการ ที่ตั้ง: เลียบด่วน รามอินทรา จุดเด่น: |
![]() [รีวิว] พาเที่ยวตลาดจ๊อดแฟร์ พระราม 9 Jood Fair Rama 9 วันนี้มีโอกาสได้ไปดินเล่นตลาดจ๊อดแฟร์ (Jodd Fairs) เป็นตลาดกลางคืนยอดนิยมในกรุงเทพฯ ตั้งอยู่บริเวณถนนพระราม 9 ใกล้กับเซ็นทรัลพลาซา พระราม 9 เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการเดินเล่น ช้อปปิ้ง และทานอาหารพร้อมกับเพื่อนและครอบครัว บรรยากาศที่นี่เป็นกันเองและมีสีสัน ซึ่งทำให้เป็นที่นิยมทั้งในหมู่คนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว ข้อมูลทั่วไป ที่ตั้ง: ริมถนนพระราม 9 ใกล้กับเซ็นทรัลพลาซา พระราม 9 เวลาทำการ: เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 17:00 - 24:00 น. สิ่งที่น่าสนใจ 1) อาหารและเครื่องดื่ม - เด่นเรื่องเล้งแซ่บ ร้านค้าของกินจะเห็นนักท่องเที่ยวนิยมนั่งกิน เล้งแซ่บกันเยอะมาก เราเลยลองเข้าไปกินดู รสชาติอร่อยดีนะ - มีร้านอาหารและร้านเครื่องดื่มมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย อาหารนานาชาติ อาหารทะเล อาหารจานด่วน และของหวาน - ของทานเล่นและเครื่องดื่มหลากหลายประเภท รวมถึงร้านคาเฟ่และบาร์ 2) สินค้าแฟชั่นและเครื่องประดับ - เสื้อผ้าแฟชั่นสำหรับทั้งชายและหญิง - กระเป๋า รองเท้า และเครื่องประดับ 3 ) ของใช้และของตกแต่งบ้าน - ของใช้ในบ้าน ของตกแต่งบ้าน และของที่ระลึก 4) กิจกรรมและความบันเทิง - การแสดงสดจากนักดนตรีและนักแสดง - บรรยากาศแบบชิล ๆ ที่นั่งเล่นได้ตามสบาย การเดินทาง - รถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) ลงที่สถานีพระราม 9 แล้วเดินต่อประมาณ 5 นาที - รถยนต์ส่วนตัว มีที่จอดรถในบริเวณใกล้เคียง (แนะนำให้ตรวจสอบที่จอดรถก่อน เนื่องจากบางครั้งอาจเต็ม) หรือว่านำรถมาจอดที่ Central พระราม 9 ก็สะดวกดีนะ คำแนะนำ - เนื่องจากตลาดเป็นที่นิยมมาก การมาช่วงเย็นหรือช่วงกลางคืนอาจจะพบกับความแออัด แนะนำให้มาก่อนช่วงเวลาเร่งด่วนเล็กน้อยเพื่อเลือกที่นั่งและเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งและทานอาหาร - สวมใส่รองเท้าที่สบาย เพราะต้องเดินเยอะ |
![]() [รีวิว] กระซิบรัก พักที่น่าน ชวนเที่ยวจังหวัดน่าน (4 วัน 3 คืน) หลังที่จากค้นหาที่เที่ยวมานานว่าช่วงต้นปีจะไปพักผ่อนเวเคชั่นที่ไหนดี จึงมาลงเอยที่ น่าน เมืองเหนือเมืองเล็กๆแต่เต็มไปด้วยศิลปวัฒนธรรมอันเก่าแก่และธรรมชาติที่น่าค้นหา ตอนแรกผู้เขียนว่าจะไปต้นปีช่วงปลายหนาวกำลังดี แต่ล่วงเลยด้วยภารกิจหน้าที่เลยทำให้ลงเอยที่ช่วงเกือบเดือนต้นร้อน (15-18 มี.ค.) จากนั้นจึงเริ่มวางแผนการเดินทาง แอบบอกว่าทริปนี้จะไปตามล่าหาทางช้างเผือกกันบนดอยด้วย เมื่อทุกอย่างลงตัว สมาชิกร่วมเดินทางพร้อมจึงเริ่มออกเดินทางกันเช้าตรู่ของวันที่ 15 ออกจาก กทม มุ่งสู่เหนือจังหวัดน่านดินแดนเล็กๆที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นของชาวเมืองน่าน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชม. ถึงประมาณเย็นๆบ่าย 3 โมง 2 วันแรกสมาชิกวางแผนกันเที่ยวในเมืองน่าน จะสัมผัสบรรยากาศวิถีชีวิตชาวเมืองน่านกันให้เต็มอิ่ม โดย จขกท เลือกพักที่ลีลาวดีรีสอร์ทซึ่งห่างจากตัวเมืองน่านประมาณ 5 กิโล หลังจากนำของเข้าที่พักแล้ว จึงออกมาหาข้าวเย็นกินในตัวเมืองน่านและเที่ยวเรียกน้ำย่อยนิดหน่อยสำหรับวันนี้ สะดุดตาเข้ากับร้านก๋วยเตี๋ยวไร้เทียมทาน หน้าโรงเรียนบ้านดอน ร้านนี้เป็นก๋วยเตี๋ยวเสริฟพร้อมเล้งในตัวเนื้อนุ่มแน่นอร่อยย 10 10 10 ไปเลยจ้าา ต่อไปจึงไปเที่ยว วัดพระธาตุเขาน้อย ไหว้พระให้เป็นสิริมงคลท่องเที่ยวปลอดภัยตลอดทริปนี้กันหน่อย ก่อนกลับไปพาสมาชิกไปดูออเจ้าคืนนี้ 555 ซึ่งวัดนี้ตั้งอยู่บนดอยเขาน้อย อยู่ทางตะวันตกของเมืองน่าน สร้างในสมัยเจ้าปู่แข็ง เมื่อปี พ.ศ. 2030 องค์พระธาตุเป็นเจดีย์ก่อ อิฐถือปูนทั้งองค์ เป็นศิลปะพม่าผสมล้านนา มุมด้านหลังพระธาตุก็สง่างามไม่เบา จากวัดพระธาตุเขาน้อย สามารถมองเห็นทิวทัศน์โดยรอบของตัวเมืองน่าน ปัจจุบันบริเวณลานชมทิวทัศน์ ประดิษฐานพระพุทธมหา อุดมมงคลนันทบุรีศรีน่าน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางประทานพร บนฐานดอกบัวสูง 9 เมตร บนยอดพระเกศาทำจากทองคำหนัก 27 บาท สร้างขึ้นเนื่องในมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ฯ ทรงเจริญ พระชนมพรรษา 6 รอบ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2542 เช้าวันที่ 2 ตื่นมาทานอาหารเช้าที่บ้านพักรีสอร์ท แอบบอกว่าอาหารเช้าอร่อยยยมากกกกจริงๆ พนักงานบริการดีสุดไม่ได้หน้าม้าแต่บอกต่อด้วยความประทับใจจริงนะเออ 10 โมงมุ่งหน้าออกเที่ยวในตัวเมืองให้เต็มที่โดยที่แรกที่ไปคือ หอศิลป์ริมน่านห่างจากตัวเมืองราว 20 กม. เป็นคล้ายๆแหล่งรวมศิลปะและ วัฒนธรรมของชาวจังหวัดน่าน โดยเป็นก่อตั้งและดำเนินงานโดยศิลปินชาวน่าน คุณวินัย ปราบริปู ศิลปินชาวน่านที่ใช้เวลารังสรรค์สร้างขึ้นมากว่า 5 ปี ทำให้ได้สถานที่ท่องเที่ยวอาร์ทๆแบบนี้ให้ได้ชมและเที่ยวกัน เดินเพลินไปหน่อยในหอศิลป์เลยแวะไปฝากท้องที่ ข้าวซอยบ้านไทลื้อ ไปถึงซะเย็นโชคดีที่อาหารพอสำหรับสมาชิกพอดิบพอดี เรียกว่าเหมาปิดร้านไปเลย ฮ่าๆ เลยได้แบบจัดเต็ม อิ่มท้อง ข้าวซอยร้านนี้อร่อย น้ำข้นได้รสชาติอาหารเหนือยอดฮิตนี้ไปเต็มๆเลยยเจ้า หลังจากฝากท้องร้านนี้เสร็จจึงไปเที่ยว วัดศรีมงคล เป็นวัดเก่าแก่ที่ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2395 ภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจอาทิเช่น วิหารหลวงที่มีภาพจิตกรรมบนฝาผนัง พิพิธภัณฑ์มงคลธรรมรังสี ที่รวมรวมของโบราณต่างๆให้ได้ชมกัน แอบบอกว่ามีของให้รำลึกความแก่เต็มเลยย ฮ่าๆ สวยงามเพลินมากๆ มีจุดถ่ายรูปเต็มไปหมดเลย ไปเที่ยว วัดภูเก็ต ชื่อวัดภูเก็ตไม่อยู่ใต้ แต่อยู่เหนือนะเอออ ไป Search หาข้อมูลมาจึงทำให้รู้ว่าวัดนี้ตั้งอยู่แถวๆหมู่บ้านเล็กๆที่ชื่อว่าหมู่บ้านเก็ต และชาวเหนือเรียกเนินเขาว่า ภู หรือ ดอย จึงเป็นที่มาของวัดภูเก็ตนั่นเองงง อ๋ออออออ ด้านล่างวัดข้างหมู่บ้าน เป็น ตูบนาไทลื้อ สถานที่ให้ได้จิบกาแฟกันเบาๆ สไตล์ลูกทุ่งกันด้วยแหละ เกือบเย็นแล้วก่อนกลับที่พักแวะเที่ยววัดภูมินทร์ในตัวเมืองใกล้กับพิพิธภัณฑสถาน-แห่งชาติน่าน กันสักหน่อย วัดนี้สร้างขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. 2139 โดยพระเจ้าเจตบุตรพรหมมินทร์ เจ้าผู้ครอง เมืองน่าน ภายในอุโบสถประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ 4 องค์ หันพระพักตร์ออก ด้านประตูทั้งสี่ทิศ หันเบื้องพระปฤษฏางค์ ชนกันประทับ นั่งบนฐานชุกชี เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ชม พระอุโบสถจตุรมุข ภาพจิตกรรมบนฝาผนังอันเลื่องลืน ปู่ม่านย่าม่าน ตำนานกระซิบบรรลือโลกกันสักหน่อย ภาพแห่งความรักที่เป็นตัวบ่งบอกรักที่ยาวนานเป็นอมตะ เพราะเป็นภาพ “ปู่ม่านย่าม่าน” หรือ “ภาพกระซิบรัก” ที่ถูกวาดขึ้นในช่วงปี พ.ศ.2410-2417 โดยหนานบัวผัน ศิลปินชาวไทลื้อ ที่แสดงออกถึงการแต่งกายเต็มยศของผู้ชาย ผู้หญิง ชาวไทลื้อ เสร็จจากวัดนี้พลบค่ำพอดี ออกจากวัดมาเจอตลาดข้างๆวัด และลานหน้าวัดมีจัดกิจกรรม ลานขันโตก ให้นักท่องเที่ยวได้ซื้อของกินมานั่งกินบนลานขันโตก (น่าจะไปช่วงกีฬาจังหวัดน่านพอดี) กินลมชมบรรยากาศชาวเมืองน่านได้เต็มๆ อบอุ่นมากก ข้อดีของจังหวัดนี้จากที่สัมผัสมาคือ ชาวน่านใจดี วิถีชีวิตดำเนินไปอย่างสบายๆ สถานที่ท่องเที่ยววัฒนธรรมจำพวกวัดเก่าต่างๆ มีอยู่ตัวเมืองน่านกันมากมายทีเดียว ทำให้เที่ยวสนุกขับรถไม่เหนื่อยเลย วันที่ 3 แล้ววววว อาหารเช้าที่พักยังคงอร่อยเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงและเช็คเอ้าออกจากที่พักเพื่อเตรียมตัวขึ้นดอยไปล่าทางช้างเผือกกันในคืนนี้บน ดอยเสมอดาววววว เริ่มเลยท่องเที่ยวในตัวเมืองอีก ประเดิมวัดแรกของวันด้วย วัดศรีพันต้น เป็นวัดที่สร้างโดยเจ้าผู้ครองนครน่าน แห่งราชวงศ์ภูคา ราว พ.ศ. 1960 - 1969 ภายในวัดมีวิหารที่สวยงาม ตั้งเด่นเป็นสง่ามีสีทองระยิบระยับ มีรูปปั้นพญานาคเจ็ดเศรียญอยู่ทั้งสองราวบันได สวยงามมากจริงๆ ก่อนขึ้นดอยขอเที่ยวในตัวเมืองอีกนิดที่ ซุ้มลีลาวดี พิพิธภัณฑ์แห่งชาติน่าน ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวไปถ่ายรูป เช็คอิน ได้ฟินๆอีกหนึ่งที่ และตรงข้ามอุโมงค์ลีลาวดีเป็น วัดพระธาตุช้างค้ำ เป็นเจดีย์ที่ได้รับอิทธิพลทางด้านศิลปะสุโขทัย ภายในวัดประดิษฐานเจดีย์ช้างค้ำ ซึ่งเป็นศิลปสมัยสุโขทัย อายุประมาณพุทธศตวรรษที่ 20 เลยแวะเข้าไหว้พระกันอีกเสียหน่อย |
|
ดูทั้งหมด |
![]() โบรกเกอร์ forex ที่น่าเชือถือในประเทศไทยปี 2025 การเลือกโบรกเกอร์ Forex ที่น่าเชื่อถือและปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากมีโบรกเกอร์จำนวนมากในตลาด การพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบจะช่วยให้ตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลและลดความเสี่ยงได้ วันนี้เราจึงรวบรวมโบรกเกอร์ที่น่าสนใจมานำเสนอกันครับ โดยเริ่มต้นมีหลายประเด็นที่ควรพิจารณาหลักๆ ดังนี้ 1. การกำกับดูแลและใบอนุญาต ตรวจสอบให้แน่ใจว่าโบรกเกอร์ได้รับการกำกับดูแลโดยหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ เช่น ASIC (ออสเตรเลีย), CySEC (ไซปรัส), หรือ FCA (สหราชอาณาจักร) การกำกับดูแลช่วยให้มั่นใจได้ว่าโบรกเกอร์ปฏิบัติตามมาตรฐานทางการเงินและปกป้องเงินทุนของลูกค้า การเลือกโบรกเกอร์ที่ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานเหล่านี้เป็นการรับรองว่าโบรกเกอร์มีการกำกับดูแลอย่างเข้มงวด และมีมาตรฐานที่สามารถไว้ใจได้ในการดำเนินธุรกิจและปกป้องผลประโยชน์ของลูกค้า |
![]() เริ่มต้นเขียน EA บน MT4 ด้วยภาษา MQL4 ฉบับมือใหม่ MQL4 และ MT4 คืออะไร? MQL4 (MetaQuotes Language 4) เป็นภาษาการเขียนโปรแกรมที่ใช้สำหรับสร้าง Expert Advisors (EA), Indicators, Scripts และ Custom Functions บน MetaTrader 4 (MT4) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการซื้อขาย Forex ยอดนิยม MetaTrader 4 (MT4) – เป็นซอฟต์แวร์สำหรับการเทรด Forex และ CFD ที่มีเครื่องมือวิเคราะห์กราฟและรองรับการเทรดอัตโนมัติ MQL4 – เป็นภาษาสำหรับการพัฒนา EA เพื่อทำการเทรดอัตโนมัติหรือสร้างอินดิเคเตอร์เฉพาะตัว วิธีเริ่มต้นเขียน EA บน MT4 1. ติดตั้ง MetaTrader 4 และ MetaEditor ดาวน์โหลด MT4 จากโบรกเกอร์ที่ใช้งาน เปิด MT4 แล้วกด F4 เพื่อเปิด MetaEditor (ตัวแก้ไขโค้ดสำหรับ MQL4) |
![]() Myfxbook คืออะไร? และวิธีการผูกบัญชีเทรดกับ Myfxbook Myfxbook เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ช่วยนักเทรด Forex วิเคราะห์และติดตามผลการเทรดของตนเองโดยอัตโนมัติ โดยสามารถดูสถิติแบบละเอียด เช่น อัตรากำไร, Drawdown, Risk-to-Reward, จำนวนการเทรดที่ชนะหรือแพ้ และข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับพอร์ตการลงทุน หน้าที่ของ Myfxbook ติดตามผลการเทรด – แสดงสถิติการเทรดอย่างละเอียด วิเคราะห์ข้อมูล – มีเครื่องมือช่วยวิเคราะห์แนวโน้มและกลยุทธ์ คัดลอกเทรด (AutoTrade) – ให้สามารถคัดลอกเทรดเดอร์ที่มีผลการเทรดดี แชร์และเปรียบเทียบผลงาน – สามารถแชร์พอร์ตการลงทุนให้ผู้อื่นดู หรือเปรียบเทียบกับเทรดเดอร์คนอื่น ตรวจสอบความน่าเชื่อถือ – ใช้ตรวจสอบประสิทธิภาพของบัญชีเทรดก่อนลงทุนกับผู้ให้บริการสัญญาณ |
![]() ฟีโบนาชชี :ลำดับเลขมหัศจรรย์ คืออะไรและวิธีการใช้งาน ฟีโบนาชชี: ลำดับเลขมหัศจรรย์ที่พบได้ทั้งในธรรมชาติและการลงทุน ฟีโบนาชชี (Fibonacci) คือ ลำดับของตัวเลขที่เกิดจากการนำตัวเลขสองตัวก่อนหน้ามาบวกกัน โดยเริ่มจาก 0 และ 1 เช่น 0, 1, 1, 2, 3, 5, 8, 13, 21, 34, ... ลำดับเลขนี้ถูกตั้งชื่อตาม เลโอนาร์โด ฟีโบนาชชี นักคณิตศาสตร์ชาวอิตาลี ผู้ค้นพบและเผยแพร่ลำดับเลขนี้ในศตวรรษที่ 13 ประวัติความเป็นมา เรื่องราวของลำดับเลขฟีโบนาชชีเริ่มต้นจากปัญหาทางคณิตศาสตร์ที่เกี่ยวกับการเพิ่มจำนวนของประชากรกระต่าย ฟีโบนาชชีได้สังเกตเห็นรูปแบบการเพิ่มจำนวนของกระต่าย และพบว่าจำนวนกระต่ายในแต่ละรุ่นสอดคล้องกับลำดับเลขที่เขาค้นพบนี้ อัตราส่วนทองคำ (Golden Ratio) สิ่งที่น่าสนใจคือ เมื่อเราหารตัวเลขในลำดับฟีโบนาชชีด้วยตัวเลขที่อยู่ถัดไป ผลลัพธ์ที่ได้จะเข้าใกล้ค่าคงที่ที่เรียกว่า อัตราส่วนทองคำ (Golden Ratio) ซึ่งมีค่าประมาณ 1.618 อัตราส่วนทองคำนี้พบได้ทั่วไปในธรรมชาติ เช่น เปลือกหอย ดอกไม้ กาแล็กซี และแม้แต่ร่างกายมนุษย์เอง การนำไปใช้งาน ลำดับเลขฟีโบนาชชีและอัตราส่วนทองคำถูกนำไปประยุกต์ใช้ในหลากหลายสาขา ทั้งศิลปะ วิทยาศาสตร์ และการลงทุน ศิลปะและการออกแบบ: ศิลปินและนักออกแบบหลายคนใช้หลักการของฟีโบนาชชีและอัตราส่วนทองคำในการสร้างสรรค์ผลงาน เพื่อให้เกิดความสมดุลและความสวยงามตามธรรมชาติ วิทยาศาสตร์: นักวิทยาศาสตร์ใช้ลำดับเลขฟีโบนาชชีในการศึกษาปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ เช่น การเจริญเติบโตของพืช การเคลื่อนที่ของดาวเคราะห์ และโครงสร้างของโมเลกุล การลงทุน: นักลงทุนนำลำดับเลขฟีโบนาชชีมาใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค เพื่อคาดการณ์แนวโน้มราคาของสินทรัพย์ โดยอาศัยระดับฟีโบนาชชี (Fibonacci Retracement) ซึ่งเป็นเส้นแนวรับแนวต้านที่คำนวณได้จากอัตราส่วนทองคำ การใช้งานลำดับเลขฟีโบนาชชีในการลงทุน Fibonacci Retracement: เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการหาจุดกลับตัวของราคา โดยลากเส้นเชื่อมระหว่างจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดของราคา จากนั้นจึงแบ่งช่วงระหว่างสองจุดนี้ออกเป็นสัดส่วนตามลำดับฟีโบนาชชี เช่น 23.6%, 38.2%, 50%, 61.8%, และ 100% ระดับเหล่านี้จะแสดงถึงระดับราคาที่คาดว่าราคาอาจจะกลับตัว Fibonacci Extension: ใช้เพื่อคาดการณ์เป้าหมายราคาที่อาจเกิดขึ้นหลังจากที่ราคาเกิดการทะลุแนวต้านหรือแนวรับ Fibonacci Fan: เป็นเส้นแนวโน้มที่ลากออกมาจากจุดเริ่มต้น โดยมีมุมที่สอดคล้องกับระดับฟีโบนาชชี |
![]() วิธีสร้างรายได้บน Pantip.com แค่เขียนกระทู้ก็ได้เงิน การสร้างรายได้บน Pantip.com อาจไม่ใช่เรื่องที่ทำได้โดยตรง แต่ล่าสุดทาง Pantip เปิดโอกาสให้บรรดาเหล่านักเขียน นักรีวิวต่างๆ ได้มีโอกาสในการสร้างรายได้อีก 1 ช่องทาง โดยเชื่อมบัญชี google Adsens ในเว็บไซต์ของทางเว็บไซต์ Pantip การตั้งค่าการสร้างรายได้ เข้าไปที่เมนูรูปโปรไฟล์ของตนเอง แล้วกดไปที่ การตั้งค่า เลือกมาที่เมนู สร้างรายได้ จะพบกับขั้นตอนการตั้งค่าโปรไฟล์ Google Ads ของอีเมล์ส่วนตัวเรา เข้ากับเว็บไซต์ Pantip โดยสามารถทำตามคำแนะนำตามลำดับได้เลย เมื่อผูกบัญชีสำเร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ทดลองกด ตรวจสอบสถานะการเชื่อมต่อ หลังจากการตรวจสอบสถานะการเชื่อมต่อเสร็จสิ้น หากสำเร็จจะมีข้อความแสดงสถานะลูกศรถูกสีเขียว เท่านี้ก็สามารถสร้างรายได้ ได้แล้ว โดยทุกกระทู้ที่เราสร้างบนเว็บไซต์ Pantip จะมีโฆษณาแสดงอัตโนมัติ ทุกครั้งที่มีคนเข้ามาเยี่ยมชมกระทู้ของเรา ตัวอย่างโฆษณาแสดงอัตโนมัติ ที่ขึ้นระหว่างความคิดเห็น โดยจะมีการคำนวณรายได้ตามกฎเกณฑ์ที่กำหนดและได้รายได้ผ่านเข้าบัญชี Google Adsense ของเรา |
![]() รีวิว forex โบรกเกอร์ Exness ดีไหม ความน่าเชื่อถือ ข้อดีและข้อเสีย Exness เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ได้รับความนิยมในตลาดโลก โดยเฉพาะในเอเชียและตะวันออกกลาง เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2008 ซึ่งมีการพัฒนาแพลตฟอร์มและการบริการให้ทันสมัย เพื่อให้เทรดเดอร์ทุกระดับได้รับประสบการณ์การเทรดที่ดีและครบถ้วน ข้อมูลพื้นฐาน ปีที่ก่อตั้ง: 2008 สำนักงานใหญ่: ประเทศไซปรัส การกำกับดูแล: ได้รับใบอนุญาตจากหลายองค์กรการเงินที่เชื่อถือได้ เช่น CySEC (ไซปรัส), FCA (สหราชอาณาจักร), FSA (เซเชลส์) และ FSCA (แอฟริกาใต้) Exness จึงมีความโปร่งใสและปลอดภัยสูง การกำกับดูแลที่เข้มงวดช่วยให้มั่นใจว่าเงินทุนของลูกค้าได้รับการดูแลอย่างดี |
![]() รีวิว forex โบกเกอร์ Vantage ดีไหม ความน่าเชื่อถือ ข้อดีและข้อเสีย Vantage Markets เป็นโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์และ CFD ที่มีความนิยมในตลาด โดยให้บริการตั้งแต่ปี 2009 และมีสำนักงานใหญ่ในประเทศออสเตรเลีย Vantage Markets มีจุดเด่นด้านความโปร่งใสและความปลอดภัย มีการกำกับดูแลจากหน่วยงานทางการเงินหลายแห่ง เช่น Australian Securities and Investments Commission (ASIC), Financial Conduct Authority (FCA) ในสหราชอาณาจักร และ Cayman Islands Monetary Authority (CIMA) ซึ่งช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับโบรกเกอร์นี้ |
![]() วิธีแสดงราคาบน Fibonacci MT4 และ MT5 การแสดงราคาบนฟิโบนันซี่บน MT4 และ MT5 สามารถทำได้ตามขั้นตอนดังนี้ ให้ตีเส้น Fibonacci ขึ้นมา 1 อัน จากนั้นให้เข้าไปที่วัตถุที่สร้างตรงสัญลักษณ์ด้านบน เข้าไปที่สัญลักษณ์ที่สร้างขึ้นเพื่อไปตั้งค่าต่างๆ เมื่อเข้ามาแล้วจะปรากฏคุณสมบัติต่างๆของเส้น Fibonacci ให้เลือกตั้งค่าเช่น การขยายเส้นไปทรางด้านขวา ซ้าย ปรับแต่งเส้นและสีเป็นต้น จากนั้นให้เราเข้าไปที่ส่วนของ Levels เพื่อไปกำหนดตั้งค่าคำอธิบายและแสดงราคาให้กับตำแหน่งของเส้น Fibonacci ที่ต้องการแสดง ตรงส่วนของ Levels ให้เรากำหนดค่าเลขของ Fibonacci ตามที่ต้องการได้เลย ส่วนด้านซ้ายมือจะเป็นคำอธิบายที่จะแสดงบนเส้น หากเราต้องการให้เส้นแสดงราคาด้วยให้ใส่สัญลักษณ์ #%$ เพื่อแสดงราคาให้แสดงทุกครั้งเมื่อลากเส้นบนกราฟ เพียงตั้งค่าเท่านี้ ก็จะสามารถดูราคาได้สะดวกยิ่งขึ้นแล้ว |
![]() วิธีนำเข้าข้อมูลประวัติราคาของ MT4/MT5 บน Mac เมื่อเราต้องการทดสอบ EA บน MT4 หรือ MT5 และกดช่วงวันที่ต้องการทดสอบ No History Data of XAUUSD FROM .... นั่นหมายความว่าบนเครืองมือเราไม่มีประวัติของราคาของสินค้าที่เราต้องการทดสอบครับ วันนี้เราจะมาดูวิธีการแก้ไข และการนำเข้าประวัติข้อมูราคากัน โหลดประวัติราคาที่สนใจ ไปที่เว็บไซต์ที่มีประวัติราคาให้เราเลือก Download ได้ฟรี ยกตัวอย่างเช่น https://traders-trust.com/historical-data/ หรือ https://www.axiory.com/trading-tools/metatrader-historical-data เลือกดาวน์โหลดข้อมูลของคู่เงิน หรือคู่ Forex ที่เราสนใจ วิธีนำเข้าประวัติข้อมูลสู่ MT4/MT5 เมื่อได้ไฟล์แล้วให้แตกไฟล์ และจะเห็นไฟล์ csv หรือ ถ้าได้ excel ให้ export เป็น file csv แทนเพื่อที่ได้ง่ายต่อการ import data ไฟล์ข้อมูลที่คุณต้องการนำเข้าไปใน MT4 ควรเป็นไฟล์ที่มีรูปแบบ CSV หรือไฟล์ที่ MT4 รองรับ เช่นไฟล์ .csv หรือ .txt เข้าไปที่่โปรแกรม MT4 คลิ๊กเลือก File -> Open Data Folder จะปรากฏหน้าต่าง Popup ขึ้นมาใหม่ให้เลือกที่เมนูด้านซ้ายที่ Document และ Copy ไฟล์บนเครื่อง Mac เรา และนำไปว่าง ที่หน้าต่างที่ปรากฏใน Folder Document ครับ ต่อไปกดไปที่ Tools -> History Center และเลือกหา Currency หรือ คู่ Forex ทางด้านซ้าน และเลือก Import ข้อมูล สามารถกำหนดค่าต่างๆ ได้ตามลักษณะของไฟล์ที่เรา Download มา |
![]() รูปแบบกราฟ Chart Patterns ที่นิยมในตลาด Forex (Foreign Exchange) ในตลาด Forex (Foreign Exchange) มีรูปแบบกราฟ (Chart Patterns) ที่เป็นที่นิยมหลายรูปแบบ ซึ่งนักเทรดใช้เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มของตลาดและตัดสินใจในการซื้อขาย รูปแบบกราฟเหล่านี้แบ่งเป็นสองประเภทหลักๆ คือ รูปแบบต่อเนื่อง (Continuation Patterns) และรูปแบบการกลับตัว (Reversal Patterns) รูปแบบกราฟ (Chart Pattern) ในตลาด Forex นั้นเปรียบเสมือนลายนิ้วมือของราคา ซึ่งช่วยให้นักเทรดสามารถคาดการณ์ทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ รูปแบบกราฟเหล่านี้เกิดขึ้นจากพฤติกรรมของนักลงทุนจำนวนมากที่ทำปฏิกิริยาต่อปัจจัยต่างๆ ทั้งปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค ทำให้เกิดรูปแบบที่ซ้ำๆ กันและสามารถนำมาวิเคราะห์ได้ รูปแบบต่อเนื่อง (Continuation Patterns) 1. Triangle รูปสามเหลี่ยมที่มีแนวโน้มที่จะต่อเนื่องไปในทิศทางเดิม Ascending Triangle: สามเหลี่ยมที่มีฐานล่างราบและยอดยกขึ้น Descending Triangle: สามเหลี่ยมที่มีฐานบนราบและฐานล่างต่ำลง Symmetrical Triangle: สามเหลี่ยมที่มีทั้งฐานบนและฐานล่างเอียงไปในทางเดียวกัน 2. Flag มีลักษณะเหมือนธง ช่วงแถบที่เกิดขึ้นจะอยู่ภายในช่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ซึ่งเป็นช่วงการพักตัวก่อนที่จะดำเนินต่อไปในทิศทางเดิม Pennant คล้าย Flag แต่มีรูปสามเหลี่ยมเล็กๆ ที่จะบ่งบอกถึงการพักตัวชั่วคราว รูปแบบการกลับตัว (Reversal Patterns) 1. Head and Shoulders รูปแบบที่บ่งบอกถึงการกลับตัวจากขาขึ้นเป็นขาลง ประกอบด้วยหัวและไหล่สองข้าง Inverse Head and Shoulders: รูปแบบกลับหัวของ Head and Shoulders บ่งบอกถึงการกลับตัวจากขาลงเป็นขาขึ้น 2. Double Top/Bottom สัญญาณการกลับตัวที่บ่งบอกถึงการสิ้นสุดของแนวโน้ม Double Top: รูปแบบที่เกิดขึ้นเมื่อราคาขึ้นถึงระดับสูงสุดสองครั้งแล้วไม่สามารถทะลุขึ้นไปได้ Double Bottom: รูปแบบที่เกิดขึ้นเมื่อราคาลงถึงระดับต่ำสุดสองครั้งแล้วไม่สามารถทะลุลงไปได้ 3. Triple Top/Bottom คล้าย Double Top/Bottom แต่มีจุดสูงสุดหรือต่ำสุดสามจุด การรู้จักและเข้าใจรูปแบบกราฟต่างๆ จะช่วยให้คุณสามารถวิเคราะห์ตลาดได้ดีขึ้นและทำการตัดสินใจในการเทรดอย่างมีข้อมูลมากขึ้น การนำรูปแบบกราฟไปใช้ในการเทรด การวิเคราะห์รูปแบบกราฟเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการตัดสินใจในการเทรด นักเทรดควรนำรูปแบบกราฟไปใช้ร่วมกับเครื่องมือทางเทคนิคอื่นๆ เช่น ตัวบ่งชี้ทางเทคนิค (Technical Indicators) เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการคาดการณ์แนวโน้มของราคา สรุป รูปแบบกราฟเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับนักเทรด Forex การทำความเข้าใจและนำรูปแบบกราฟไปใช้ในการวิเคราะห์ตลาด จะช่วยให้นักเทรดสามารถตัดสินใจในการซื้อขายได้อย่างมีข้อมูลมากขึ้น อย่างไรก็ตาม นักเทรดควรจำไว้ว่าตลาดมีความผันผวนและไม่มีอะไรแน่นอน การเรียนรู้และพัฒนาทักษะการวิเคราะห์อย่างต่อเนื่องจึงเป็นสิ่งสำคัญ การฝึกฝน: การอ่านและตีความรูปแบบกราฟต้องใช้เวลาและประสบการณ์ในการฝึกฝน การยืนยัน: ควรใช้เครื่องมือทางเทคนิคอื่นๆ เพื่อยืนยันสัญญาณที่ได้จากรูปแบบกราฟ การบริหารความเสี่ยง: แม้ว่าการวิเคราะห์รูปแบบกราฟจะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไร แต่ก็ไม่มีระบบใดที่สามารถทำกำไรได้ 100% ดังนั้นการบริหารความเสี่ยงจึงเป็นสิ่งสำคัญ |
![]() รูปแบบแท่งเทียน Price Pattern ที่นิยมในตลาด Forex รูปแบบแท่งเทียน (Price Pattern) เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่เทรดเดอร์ Forex ใช้ในการวิเคราะห์กราฟ เพื่อคาดการณ์ทิศทางราคาในอนาคต โดยอาศัยการสังเกตการเคลื่อนไหวของราคาในอดีตที่เกิดขึ้นซ้ำๆ และสร้างเป็นรูปแบบเฉพาะเจาะจง ทำไมรูปแบบแท่งเทียนถึงสำคัญ? สัญญาณการกลับตัวหรือต่อเนื่องของแนวโน้ม: รูปแบบแท่งเทียนหลายรูปแบบบ่งบอกถึงจุดที่แนวโน้มอาจเปลี่ยนทิศทาง หรือยังคงดำเนินต่อไปในทิศทางเดิม ยืนยันสัญญาณอื่นๆ: รูปแบบแท่งเทียนสามารถใช้ร่วมกับตัวบ่งชี้ทางเทคนิคอื่นๆ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือในการตัดสินใจ ระบุจุดเข้าและออกคำสั่ง: ช่วยให้เทรดเดอร์ระบุจุดที่เหมาะสมในการเข้าซื้อหรือขาย รูปแบบแท่งเทียนยอดนิยมในตลาด Forex มีรูปแบบแท่งเทียนมากมาย แต่รูปแบบที่นิยมและใช้กันอย่างแพร่หลาย ได้แก่ ข้อควรจำ รูปแบบแท่งเทียนไม่ได้แม่นยำ 100%: ควรใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์อื่นๆ และพิจารณาปัจจัยพื้นฐานด้วย กรอบเวลา: รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นในกรอบเวลาที่ต่างกัน อาจมีความหมายที่แตกต่างกัน การฝึกฝน: การเรียนรู้และฝึกฝนการอ่านรูปแบบแท่งเทียนอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้คุณมีความเข้าใจและวิเคราะห์ได้ดียิ่งขึ้น |
![]() ทองคำคืออะไร? และใครมีทองคำมากที่สุดในโลก ทองคำ เป็นโลหะมีค่าชนิดหนึ่ง มีสีเหลืองอร่าม เป็นที่ต้องการสูงมาอย่างยาวนานเนื่องจากความสวยงาม ความคงทน และคุณสมบัติทางเคมีที่พิเศษ ทำให้ทองคำถูกนำมาใช้ในหลากหลายด้าน เช่น เครื่องประดับ: ทองคำเป็นวัสดุหลักในการทำเครื่องประดับ เนื่องจากมีความสวยงามและคงทน การลงทุน: ทองคำถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่สามารถรักษามูลค่าได้ในช่วงเวลาที่มีความผันผวนทางเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม: ทองคำถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ การแพทย์ และอวกาศ ใครมีทองคำมากที่สุดในโลก? ประเทศที่มีทองคำสำรองมากที่สุดในโลกมักจะเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่และมีประวัติศาสตร์อันยาวนานในการสะสมทองคำ โดยประเทศที่มีทองคำสำรองมากที่สุดอันดับต้นๆ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา: ถือเป็นประเทศที่มีทองคำสำรองมากที่สุดในโลก เยอรมนี: มีปริมาณทองคำสำรองเป็นอันดับสองของโลก อิตาลี, ฝรั่งเศส, รัสเซีย, จีน: เป็นประเทศที่มีทองคำสำรองมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลกเช่นกัน เหตุผลที่ประเทศต่างๆ สะสมทองคำ การรักษามูลค่า: ทองคำถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่สามารถรักษามูลค่าได้ในระยะยาว แม้ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจผันผวน การสำรองเงินตราต่างประเทศ: ทองคำสามารถใช้เป็นหลักประกันในการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ สัญลักษณ์ของอำนาจ: การมีทองคำสำรองจำนวนมากเป็นการแสดงถึงความมั่งคั่งและอำนาจของประเทศ หากต้องการข้อมูลที่เป็นปัจจุบันและละเอียดมากขึ้น สามารถค้นหาเพิ่มเติมได้จากแหล่งข้อมูลทางการเงิน เช่น เว็บไซต์ของธนาคารกลางต่างๆ หรือเว็บไซต์ข่าวเศรษฐกิจ |
![]() Exness คือใคร และวิธีการเปิดบัญชี Exness Exness เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดและเป็นที่รู้จักกันดีในวงการเทรดทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย ด้วยชื่อเสียงในด้านสภาพคล่องสูง ค่าคอมมิชชั่นต่ำ และแพลตฟอร์มการเทรดที่ใช้งานง่าย ทำให้ Exness เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับทั้งเทรดเดอร์มือใหม่และมืออาชีพ เรามาดูเหตุผลและปัจจัยที่ดีของ Exness กันครับ สภาพคล่องสูง: สามารถเปิดและปิดออร์เดอร์ได้อย่างรวดเร็ว ค่าคอมมิชชั่นต่ำ: ช่วยลดต้นทุนในการเทรด แพลตฟอร์มหลากหลาย: รองรับทั้ง MetaTrader 4, MetaTrader 5 และแพลตฟอร์มของตัวเอง สินทรัพย์หลากหลาย: ครอบคลุมทั้งคู่เงินตรา, ดัชนี, หุ้น, สินค้าโภคภัณฑ์ และอื่นๆ การกำกับดูแล: ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานกำกับดูแลหลายแห่งทั่วโลก ซึ่งเป็นการรับประกันความปลอดภัยของเงินทุน สิ่งที่ควรรู้ก่อนเปิดบัญชี ประเภทบัญชี: Exness มีหลายประเภทบัญชีให้เลือก โดยแต่ละประเภทจะมีเงื่อนไขและค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกัน ควรเลือกประเภทบัญชีที่เหมาะสมกับความต้องการและระดับประสบการณ์ของคุณ ความเสี่ยง: การเทรดมีความเสี่ยงสูง คุณอาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้ ควรศึกษาข้อมูลและทำความเข้าใจเกี่ยวกับตลาดก่อนเริ่มเทรด การสนับสนุนลูกค้า: Exness มีบริการสนับสนุนลูกค้าหลายช่องทาง เช่น แชทสด, อีเมล และโทรศัพท์ หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อได้ตลอดเวล ข้อควรระวัง ตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้อง: ก่อนทำการลงทุน ควรตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับ Exness และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน อ่านข้อกำหนดและเงื่อนไข: ทำความเข้าใจข้อกำหนดและเงื่อนไขของการให้บริการอย่างละเอียด ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: หากคุณเป็นนักลงทุนมือใหม่ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนก่อนตัดสินใจ คำแนะนำเพิ่มเติม เริ่มต้นด้วยบัญชีทดลอง: Exness มีบัญชีทดลองให้คุณได้ทดลองใช้แพลตฟอร์มและฝึกฝนกลยุทธ์การเทรดก่อนลงทุนจริง เรียนรู้เกี่ยวกับตลาด: ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับตลาดที่คุณสนใจ เช่น ข่าวสารเศรษฐกิจ, ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคา และเทคนิคการวิเคราะห์ บริหารความเสี่ยง: กำหนดวงเงินในการลงทุน และตั้ง Stop-loss และ Take-profit เพื่อจำกัดความเสี่ยง |
![]() รวมโบรกเกอร์ Forex ที่น่าเชื่อถือ ปี 2024 - คู่มือสำหรับนักลงทุน การเลือกโบรกเกอร์ Forex ที่น่าเชื่อถือเป็นขั้นตอนสำคัญสำหรับนักลงทุนทุกคน เพราะเป็นการตัดสินใจที่ส่งผลโดยตรงต่อความสำเร็จในการลงทุนของคุณ ในปี 2024 มีโบรกเกอร์ Forex เกิดขึ้นมากมาย ทำให้การตัดสินใจเลือกสักรายหนึ่งอาจเป็นเรื่องยาก ปัจจัยที่ควรพิจารณาเมื่อเลือกโบรกเกอร์ Forex การกำกับดูแล: โบรกเกอร์ควรได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ เช่น FCA (Financial Conduct Authority), ASIC (Australian Securities and Investments Commission), หรือหน่วยงานกำกับดูแลในประเทศอื่นๆ สเปรดและค่าคอมมิชชั่น: เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น สเปรด (Spread) และค่าคอมมิชชั่นของแต่ละโบรกเกอร์ เพื่อเลือกที่เหมาะสมกับงบประมาณและสไตล์การเทรดของคุณ แพลตฟอร์มการเทรด: ตรวจสอบว่าแพลตฟอร์มการเทรดที่โบรกเกอร์นำเสนอนั้นใช้งานง่าย มีเครื่องมือวิเคราะห์ที่ครบครัน และมีความเสถียรสูง สินทรัพย์ที่สามารถเทรดได้: เลือกโบรกเกอร์ที่ให้คุณเทรดในสินทรัพย์ที่คุณสนใจ ไม่ว่าจะเป็นคู่สกุลเงิน ดัชนี หุ้น หรือสินค้าโภคภัณฑ์ ประเภทบัญชี: เปรียบเทียบประเภทบัญชีที่โบรกเกอร์เสนอ เพื่อเลือกบัญชีที่เหมาะสมกับระดับประสบการณ์และปริมาณการเทรดของคุณ การฝากและถอนเงิน: ตรวจสอบวิธีการฝากและถอนเงินที่โบรกเกอร์รองรับ รวมถึงระยะเวลาในการดำเนินการ การบริการลูกค้า: โบรกเกอร์ที่ดีควรมีบริการลูกค้าที่พร้อมให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโม ตัวอย่างโบรกเกอร์ Forex ที่ได้รับความนิยมในปี 2024 1. XM: โบรกเกอร์รายใหญ่ที่มีลูกค้าทั่วโลก เสนอแพลตฟอร์ม MT4 และ MT5 พร้อมเลเวอเรจสูง 2. FBS: โบรกเกอร์ที่ได้รับความนิยมในเอเชีย มีโปรโมชั่นและโบนัสมากมาย 3. HotForex: โบรกเกอร์ที่มีหลากหลายบัญชีให้เลือก เหมาะสำหรับทั้งนักลงทุนมือใหม่และมืออาชีพ 4. IC Markets: โบรกเกอร์ที่เน้นความเร็วในการดำเนินการคำสั่ง และมีสเปรดที่แคบ 5. Exness: โบรกเกอร์ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว มีแพลตฟอร์มการเทรดที่ใช้งานง่าย คำแนะนำเพิ่มเติม อ่านรีวิวจากผู้ใช้งานจริง: ก่อนตัดสินใจเลือกโบรกเกอร์ ควรอ่านรีวิวจากผู้ใช้งานจริง เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์และหลากหลายมุมมอง ลองใช้บัญชีทดลอง: โบรกเกอร์ส่วนใหญ่มีบัญชีทดลองให้คุณได้ทดลองใช้แพลตฟอร์มและฝึกฝนทักษะการเทรดก่อนลงทุนจริง เริ่มต้นด้วยเงินทุนที่น้อย: สำหรับผู้เริ่มต้น ควรเริ่มต้นด้วยเงินทุนที่น้อย เพื่อลดความเสี่ยงในการขาดทุน ข้อควรระวัง การลงทุนมีความเสี่ยง: การเทรด Forex เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง คุณอาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมด หลีกเลี่ยงโบรกเกอร์ที่ไม่มีการกำกับดูแล: การเลือกโบรกเกอร์ที่ไม่มีการกำกับดูแล อาจทำให้คุณสูญเสียเงินลงทุนและไม่ได้รับความคุ้มครองใดๆ หมายเหตุ: ข้อมูลนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ควรทำการศึกษาเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน |
|
ดูทั้งหมด |
![]() วิธีสร้าง Messaging API Line เพื่อตอบอัตโนมัติใน Line official account Creating a Messaging API for a LINE Official Account to enable automatic replies is not too difficult. You can follow these steps: 1. Create a LINE Official Account Go to LINE Official Account Manager Sign in with your LINE account Click "Create a new account" and fill in the required information |
![]() วิธีล้างเครื่อง เมื่อ iphone โดนล็อคขึ้นข้อความว่า iphone ไม่พร้อมใช้งาน การให้ ChatGPT สร้างภาพจากคำอธิบาย “based on what you know about me. draw a picture of what you think my current life looks like” คือการที่เราขอให้ AI สร้างภาพที่สะท้อนชีวิตของเราโดยอิงจากข้อมูลที่ AI ได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรา ซึ่งจะรวมถึงสิ่งที่คุณได้บอกหรือแสดงให้เห็นถึงความสนใจ ความชอบ หรือกิจกรรมที่คุณทำในชีวิตประจำวัน |
![]() วิธีสร้างภาพเกี่ยวกับเราโดย ChatGPT การให้ ChatGPT สร้างภาพจากคำอธิบาย “based on what you know about me. draw a picture of what you think my current life looks like” คือการที่เราขอให้ AI สร้างภาพที่สะท้อนชีวิตของเราโดยอิงจากข้อมูลที่ AI ได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรา ซึ่งจะรวมถึงสิ่งที่คุณได้บอกหรือแสดงให้เห็นถึงความสนใจ ความชอบ หรือกิจกรรมที่คุณทำในชีวิตประจำวัน |
![]() วิธี Export ข้อมูลเป็นไฟล์ Excel โดย PHP ใช้ tableExport.js จากบทความที่แล้วที่แนะนำวิธีการ Import ข้อมูลจากไฟล์ Excel โดยใช้ library ของ phpoffice/phpspreadsheet ไปแล้วนั้น วันนี้เรามาดูวิธีการ Export ข้อมูลจากตารางที่ต้องการส่งออกเป็นไฟล์ excel กันครับ มาดูกันเลยว่ามีวิธีการทำอย่างไร สำหรับคนที่ต้องการกลับไปดูวิธีการ import ข้อมูลจาก excel สามารถกดลิงค์นี้เพื่อเข้าไปอ่านได้เลยครับ วิธี Import ข้อมูลจาก Excel โดย PHP ใช้ phpoffice/phpspreadsheet |
![]() วิธีการใช้งาน plugin comment facebook บน website การใช้งาน Facebook Comments Plugin บนเว็บไซต์ของคุณเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ และช่วยให้พวกเขาสามารถแสดงความคิดเห็นและแชร์คอนเทนต์ได้อย่างง่ายดาย โดยเราจะใช้ Social Plugin ของ Facebook ที่เตรียมไว้ให้ใช้ให้เลยมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการแสดงความคิดเห็น กดไลท์ กดแชร์ เป็นต้น ขั้นตอนการติดตั้ง Facebook Comments Plugin 1. เตรียม Facebook App ID หากคุณยังไม่มี Facebook App ID คุณต้องสร้างแอปใน Facebook Developer เพื่อรับ App ID ให้เข้าไปที่ Facebook for Developers ล็อกอินด้วยบัญชี Facebook คลิกที่ My Apps ที่มุมบนขวา แล้วเลือก Create App ขึ้นมาใหม่ เลือกประเภทแอปที่เหมาะสม และทำตามขั้นตอนเพื่อสร้างแอปใหม่ หลังจากสร้างเสร็จ และเราจะได้รับ App ID 2. การสร้างโค้ดสำหรับ Comments Plugin |
![]() OG : Open Graph คืออะไร? และความสำคัญในการทำ SEO ใน Facebook Social Medai Open Graph คือโปรโตคอลที่ถูกพัฒนาโดย Facebook ซึ่งใช้ในการเชื่อมโยงเว็บไซต์เข้ากับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ผ่านการกำหนดข้อมูลเมตาที่ใช้สำหรับการแสดงผลเมื่อมีการแชร์ลิงก์บนโซเชียลมีเดียต่างๆ เช่น Facebook, Twitter, LinkedIn เป็นต้น และเป็นการช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์สามารถควบคุมวิธีการแสดงผลของเนื้อหาบนเว็บไซต์เมื่อถูกแชร์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ โดยการใช้แท็ก Open Graph เมตา คุณสามารถกำหนดชื่อเรื่อง คำอธิบาย รูปภาพ และคุณสมบัติอื่น ๆ ของเนื้อหาได้ ความสำคัญของ Open Graph ในการทำ SEO การเพิ่มการมีส่วนร่วมและการแชร์: การกำหนดข้อมูล Open Graph ที่เหมาะสมช่วยให้เนื้อหาที่แชร์บนโซเชียลมีเดียดูน่าสนใจและครบถ้วน ทำให้ผู้ใช้งานมีแนวโน้มที่จะแชร์และมีส่วนร่วมกับเนื้อหามากขึ้น การสร้างแบรนด์และการแสดงภาพลักษณ์: สามารถกำหนดภาพและข้อความที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ของคุณ ทำให้การแสดงผลของเนื้อหาเป็นไปในทิศทางเดียวกันและเสริมสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ เพิ่มการเข้าถึง: การใช้ Open Graph สามารถช่วยให้เว็บไซต์ของคุณได้รับการคลิกผ่านจากโซเชียลมีเดียมากขึ้น ซึ่งสามารถเพิ่มทราฟฟิกให้กับเว็บไซต์ ประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดีขึ้น: ข้อมูลที่แสดงผลชัดเจนและครบถ้วนสามารถช่วยให้ผู้ใช้ตัดสินใจเข้าชมเว็บไซต์ของคุณได้ง่ายขึ้น ความสม่ำเสมอของแบรนด์: โดยการควบคุมการแสดงผลของเนื้อหา คุณสามารถรักษาความสม่ำเสมอของแบรนด์ในแพลตฟอร์มต่าง ๆ เพิ่มอัตราการคลิกผ่าน (CTR): ตัวอย่างลิงก์ที่จัดรูปแบบอย่างดีและดึงดูดสายตาสามารถนำไปสู่อัตราการคลิกผ่านที่สูงขึ้น เนื่องจากผู้ใช้งานมีแนวโน้มที่จะคลิกบนเนื้อหาที่ดูเป็นมืออาชีพและน่าสนใจ เพิ่มการมองเห็น: แท็ก Open Graph ช่วยให้เนื้อหาของคุณแสดงผลได้ถูกต้องและน่าสนใจเมื่อแชร์บนโซเชียลมีเดีย เพิ่มโอกาสในการคลิกและมีส่วนร่วม ตัวอย่างข้อมูล Open Graph ที่สามารถกำหนดได้มีดังนี้ og:title - ชื่อของหน้าเว็บหรือบทความ og:description - คำอธิบายสั้นๆ ที่เกี่ยวกับเนื้อหาของหน้าเว็บ og:image - URL ของรูปภาพที่ใช้ในการแสดงผล og:url - URL ของหน้าเว็บ |
![]() robots.txt คืออะไร และวิธีการเขียนไฟล์ robots.txt เพื่อให้ google search engine สำหรับ SEO ไฟล์ robots.txt เป็นเหมือนป้ายบอกทางสำหรับบอทของเครื่องมือค้นหาอย่าง Google ว่าส่วนไหนของเว็บไซต์ที่สามารถเข้ามาดึงข้อมูล (crawl) ได้ และส่วนไหนที่ไม่ควรเข้ามา โดยไฟล์นี้จะวางไว้ที่ root directory ของเว็บไซต์ เช่น www.example.com/robots.txt [URL ที่ไม่ถูกต้องถูกนำออกแล้ว] ทำไมต้องมีไฟล์ robots.txt? ควบคุมการเข้าถึงของบอท: ป้องกันไม่ให้บอทเข้าไปดึงข้อมูลส่วนที่ไม่ต้องการ เช่น หน้า login, หน้า preview หรือไฟล์ที่ซ้ำกัน เพิ่มประสิทธิภาพการค้นหา: ช่วยให้บอทโฟกัสไปที่เนื้อหาสำคัญ ทำให้ผลการค้นหาของเว็บไซต์ดีขึ้น ป้องกันการคัดลอกเนื้อหา: ช่วยป้องกันไม่ให้เว็บไซต์อื่นๆ คัดลอกเนื้อหาของเราไป วิธีการเขียนไฟล์ robots.txt ไฟล์ robots.txt เป็นไฟล์ข้อความธรรมดา ใช้ภาษาอังกฤษ และมีโครงสร้างที่ค่อนข้างง่าย โดยมีคำสั่งหลักๆ ดังนี้ User-agent: ระบุบอทที่เราต้องการควบคุม เช่น Googlebot, Bingbot Disallow: บล็อกไม่ให้บอทเข้าถึง URL ที่ระบุ Allow: อนุญาตให้บอทเข้าถึง URL ที่ระบุ Sitemap: ระบุตำแหน่งของไฟล์ sitemap.xml |
![]() รู้จักกับ Google Search Console เครื่องมือคู่ใจสำหรับสาย SEO Google Search Console: เครื่องมือคู่ใจสำหรับสาย SEO Google Search Console คือเครื่องมือฟรีจาก Google ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์และผู้ทำ SEO ตรวจสอบและดูแลเว็บไซต์ของตนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นบนผลการค้นหาของ Google โดยเครื่องมือนี้จะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับวิธีที่ Google เข้าใจและจัดอันดับเว็บไซต์ของคุณ รวมถึงช่วยแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ ทำไม Google Search Console ถึงสำคัญสำหรับสาย SEO? เข้าใจพฤติกรรมผู้ใช้: ตรวจสอบคำค้นหาที่นำผู้ใช้เข้ามาในเว็บไซต์ของคุณ เพื่อให้คุณปรับปรุงเนื้อหาให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้มากขึ้น ตรวจสอบปัญหาทางเทคนิค: ค้นหาและแก้ไขปัญหาต่างๆ เช่น ลิงก์เสีย, หน้าเว็บที่ไม่มีอยู่ในดัชนี, หรือข้อผิดพลาดในการรวบรวมข้อมูล เพื่อให้ Google สามารถเข้าถึงและจัดทำดัชนีเว็บไซต์ของคุณได้อย่างถูกต้อง ติดตามประสิทธิภาพ: วัดผลลัพธ์ของการทำ SEO ว่ามีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด และปรับปรุงกลยุทธ์ให้ดียิ่งขึ้น ได้รับแจ้งเตือน: เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเกี่ยวกับเว็บไซต์ของคุณ เช่น การถูกแฮ็ก หรือการปรับอัลกอริทึมของ Google ฟังก์ชันหลักของ Google Search Console ประสิทธิภาพ: ตรวจสอบจำนวนคลิก, อัตราการคลิกผ่าน, และตำแหน่งเฉลี่ยของเว็บไซต์ของคุณในผลการค้นหา Google อินเด็กซ์: ตรวจสอบว่าหน้าเว็บของคุณถูกจัดทำดัชนีหรือไม่ และมีปัญหาในการจัดทำดัชนีหรือไม่ ลิงก์: ดูว่าเว็บไซต์อื่นๆ ลิงก์มาที่เว็บไซต์ของคุณอย่างไรบ้าง ประสบการณ์การค้นหา: ตรวจสอบว่าเว็บไซต์ของคุณแสดงผลบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้ดีเพียงใด และมีข้อผิดพลาดในการแสดงผลหรือไม่ ความปลอดภัยและการถูกแฮ็ก: ตรวจสอบว่าเว็บไซต์ของคุณถูกแฮ็กหรือมีมัลแวร์หรือไม่ |
![]() วิธี Import ข้อมูลจาก Excel โดย PHP ใช้ phpoffice/phpspreadsheet phpoffice/phpspreadsheet เป็นไลบรารี PHP ที่นิยมใช้สำหรับการทำงานกับไฟล์ Excel ทั้งการสร้างไฟล์ใหม่ การอ่านข้อมูลจากไฟล์ที่มีอยู่ และการแก้ไขข้อมูลต่างๆ ภายในไฟล์ Excel ขั้นตอนการ Import ข้อมูล 1. ติดตั้งไลบรารี Composer: วิธีที่ง่ายที่สุดคือการใช้ Composer เพื่อติดตั้งไลบรารีนี้ เพียงแค่รันคำสั่งต่อไปนี้ใน terminal ที่ directory ของ project 2. สร้างไฟล์ PHP สร้างไฟล์ index_import.php เป็น form สำหรับ upload file excel ที่เราต้องการโหลดขึ้นเพื่ออ่านข้อมูล |
![]() วิธีสร้าง Site map สำหรับ Google SEO Google Search Console Sitemap คืออะไร และวิธีการทำ Google Search Console Sitemap หรือ แผนผังเว็บไซต์ เป็นเหมือนแผนที่ที่คุณสร้างขึ้นเพื่อบอก Google ว่าเว็บไซต์ของคุณมีหน้าเว็บอะไรบ้าง และหน้าเว็บเหล่านั้นมีความสัมพันธ์กันอย่างไร เปรียบเสมือนการบอก Google ว่า "นี่คือบ้านของฉัน มีห้องนอน ห้องครัว ห้องรับแขก และสวนหลังบ้านนะ" เพื่อให้ Google เข้าใจโครงสร้างของเว็บไซต์ของคุณได้อย่างชัดเจน ทำไมต้องใช้ Sitemap? ช่วยให้ Google ค้นพบหน้าเว็บได้เร็วขึ้น: โดยเฉพาะหน้าเว็บใหม่ๆ หรือหน้าเว็บที่ซ่อนอยู่ลึกๆ ในเว็บไซต์ บอก Google ว่าหน้าเว็บไหนสำคัญที่สุด: คุณสามารถกำหนดความสำคัญของแต่ละหน้าเว็บได้ใน Sitemap ช่วยแก้ปัญหาการ RAWL: หาก Google ไม่สามารถ RAWL (คืบคลาน) เว็บไซต์ของคุณได้ทั้งหมด Sitemap จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ วิธีการสร้าง Sitemap ช่วยให้ Google ค้นพบหน้าเว็บได้เร็วขึ้น: โดยเฉพาะหน้าเว็บใหม่ๆ หรือหน้าเว็บที่ซ่อนอยู่ลึกๆ ในเว็บไซต์ บอก Google ว่าหน้าเว็บไหนสำคัญที่สุด: คุณสามารถกำหนดความสำคัญของแต่ละหน้าเว็บได้ใน Sitemap ช่วยแก้ปัญหาการ RAWL: หาก Google ไม่สามารถ RAWL (คืบคลาน) เว็บไซต์ของคุณได้ทั้งหมด Sitemap จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ 1. สร้างด้วยตนเอง ใช้โปรแกรม Notepad หรือโปรแกรมแก้ไขข้อความอื่นๆ เขียนโค้ด XML ตามรูปแบบที่ Google กำหนด ระบุ URL ของแต่ละหน้าเว็บใน Sitemap ข้อควรระวัง: วิธีนี้เหมาะสำหรับเว็บไซต์ขนาดเล็กเท่านั้น หากเว็บไซต์ของคุณมีหน้าเว็บจำนวนมาก การสร้าง Sitemap ด้วยตนเองจะใช้เวลานานและอาจเกิดข้อผิดพลาดได้ 1. สร้างด้วยตนเอง ใช้โปรแกรม Notepad หรือโปรแกรมแก้ไขข้อความอื่นๆ เขียนโค้ด XML ตามรูปแบบที่ Google กำหนด ระบุ URL ของแต่ละหน้าเว็บใน Sitemap ข้อควรระวัง: วิธีนี้เหมาะสำหรับเว็บไซต์ขนาดเล็กเท่านั้น หากเว็บไซต์ของคุณมีหน้าเว็บจำนวนมาก การสร้าง Sitemap ด้วยตนเองจะใช้เวลานานและอาจเกิดข้อผิดพลาดได้ 2. ใช้เครื่องมือสร้าง Sitemap เครื่องมือออนไลน์: มีเว็บไซต์หลายแห่งที่ให้บริการสร้าง Sitemap ฟรี เพียงแค่ใส่ URL ของเว็บไซต์ของคุณลงไป เครื่องมือจะสร้าง Sitemap ให้คุณโดยอัตโนมัติ ปลั๊กอิน WordPress: หากคุณใช้ WordPress ในการสร้างเว็บไซต์ มีปลั๊กอินมากมายที่ช่วยสร้าง Sitemap ได้ง่ายๆ เครื่องมือสร้าง Sitemap สำหรับ CMS อื่นๆ: แต่ละ CMS มักจะมีเครื่องมือหรือปลั๊กอินสำหรับสร้าง Sitemap เฉพาะของตัวเอง 3. ใช้โปรแกรมสร้าง Sitemap Screaming Frog SEO Spider: เป็นโปรแกรมที่ใช้ในการคRAWL และวิเคราะห์เว็บไซต์ นอกจากนี้ยังสามารถสร้าง Sitemap ได้อีกด้วย Sitebulb: เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมที่คล้ายกับ Screaming Frog SEO Spider และสามารถสร้าง Sitemap ได้เช่นกัน หรือสามารถสร้างได้ตามเว็บไซต์ Generate sitemap online ได้ |
![]() วิธีการใช้งาน Google Analytics ติดตามวิเคราะห์คนเข้าเว็บ นับจำนวนคนเข้า ได้อย่างแม่นยำ Google Analytics เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับการติดตามและวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้บนเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน เพื่อดูข้อมูลเช่น จำนวนผู้เข้าชม, เวลาที่ใช้บนหน้าเว็บ, หน้าเพจที่ผู้ใช้เข้าชมมากที่สุด, แหล่งที่มาของการเข้าชม, และอื่นๆ ขั้นตอนการตั้งค่า Google Analytics 1. สร้างบัญชี Google Analytics ไปที่ Google Analytics และลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชี Google ของคุณ คลิกที่ "เริ่มต้นใช้งานการวิเคราะห์ฟรี" กรอกข้อมูลที่จำเป็น เช่น ชื่อบัญชี, ชื่อเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชัน, ที่อยู่ URL, หมวดหมู่ของอุตสาหกรรม, และเขตเวลา คลิก "ถัดไป" และทำตามขั้นตอนที่ระบบแนะนำ 2. เพิ่ม Google Analytics Tracking Code ไปที่เว็บไซต์ หลังจากสร้างบัญชีแล้ว คุณจะได้รับ Tracking ID และ Global Site Tag (gtag.js) ซึ่งเป็นโค้ดที่ใช้ในการติดตาม คัดลอกโค้ดที่ได้มา กรอกข้อมูลที่จำเป็น เช่น ชื่อบัญชี, ชื่อเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชัน, ที่อยู่ URL, หมวดหมู่ของอุตสาหกรรม, และเขตเวลา วางโค้ดนี้ในทุกหน้าของเว็บไซต์ของคุณ โดยวางใน ของ HTML |
![]() วิธีแก้ Google Business Mail ไม่สามารถรับข้อความหรืออีเมล์ได้ หาก Google Business Mail หรือ Google Workspace (เดิมคือ G Suite) ของคุณไม่สามารถรับข้อความหรืออีเมลได้ อาจเกิดจากหลายสาเหตุ นี่คือขั้นตอนการตรวจสอบและแก้ไขเบื้องต้น 1. ตรวจสอบการตั้งค่าการรับอีเมล ตรวจสอบว่ามีการตั้งค่าตัวกรองอีเมลที่อาจจะบล็อกอีเมลเข้ามาหรือไม่ ตรวจสอบโฟลเดอร์สแปม (Spam) และโฟลเดอร์ขยะ (Trash) ว่าอีเมลถูกส่งเข้าไปที่นั่นหรือไม่ 2. ตรวจสอบการตั้งค่า MX Records การตั้งค่า MX Records เป็นสิ่งสำคัญในการรับอีเมล ตรวจสอบว่า MX Records ถูกตั้งค่าอย่างถูกต้องโดยใช้ Google Admin Console คุณสามารถใช้เครื่องมือออนไลน์เช่น MX Toolbox เพื่อทดสอบการตั้งค่า MX Records ของโดเมนคุณ 3. ตรวจสอบการตั้งค่าความปลอดภัย ตรวจสอบว่ามีการตั้งค่าตัวกรองอีเมลที่อาจจะบล็อกอีเมลเข้ามาหรือไม่ ตรวจสอบโฟลเดอร์สแปม (Spam) และโฟลเดอร์ขยะ (Trash) ว่าอีเมลถูกส่งเข้าไปที่นั่นหรือไม่ 3. ตรวจสอบการตั้งค่าความปลอดภัย ตรวจสอบว่าคุณมีการตั้งค่าการรับรองความถูกต้องของอีเมล เช่น SPF, DKIM, และ DMARC ที่ถูกต้องหรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้ระบบป้องกันสแปมปฏิเสธอีเมลของคุณ 4. ตรวจสอบโควต้าของกล่องจดหม ตรวจสอบว่าโควต้าพื้นที่จัดเก็บข้อมูลของบัญชีอีเมลไม่เต็ม ถ้าเต็มคุณอาจต้องลบอีเมลเก่า ๆ หรือเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูล 5. ตรวจสอบกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต บางครั้งปัญหาอาจเกิดจากการบล็อกจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) คุณอาจต้องติดต่อผู้ให้บริการเพื่อตรวจสอบว่ามีการบล็อกการเชื่อมต่อกับ Google หรือไม่ 6. ตรวจสอบปัญหาที่รู้จักใน Google Workspace Status Dashboard Google มีหน้าสถานะ (Google Workspace Status Dashboard) ที่แสดงสถานะปัจจุบันของบริการต่าง ๆ ของ Google ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ว่ามีปัญหากับบริการของ Google เองหรือไม่ 7. ติดต่อฝ่ายสนับสนุนของ Google หากปัญหายังคงอยู่หลังจากทำตามขั้นตอนข้างต้น คุณสามารถติดต่อฝ่ายสนับสนุนของ Google Workspace เพื่อขอความช่วยเหลือเพิ่มเติม วันนี้ผมเลยมาบอกวิธีที่ได้ผลคือ แจ้งให้ผู้ดูแลเว็บไซต์ของคุณเพิ่ม MX record เข้าไป โดยให้เขาไปที่ control Panel แล้วทำตามดังนี้ครับ |
![]() วิธีเขียนแจ้งเตือนผ่าน Line MQL5 ( Line Alert MQL5 ) MQL5 (MetaQuotes Language 5) คือภาษาการเขียนโปรแกรมที่พัฒนาโดยบริษัท MetaQuotes Software Corp. สำหรับการเขียนโปรแกรมการซื้อขาย (trading) อัตโนมัติและตัวชี้วัดทางเทคนิค (technical indicators) ในแพลตฟอร์ม MetaTrader 5 (MT5) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายยอดนิยมสำหรับการซื้อขายฟอเร็กซ์ (Forex) สินค้าโภคภัณฑ์ (commodities) และสินทรัพย์ทางการเงินอื่น ๆ MQL5 มีลักษณะคล้ายกับภาษาการเขียนโปรแกรม C++ แต่มีการออกแบบเพื่อการซื้อขายโดยเฉพาะ ภาษานี้รองรับการเขียนโปรแกรมการซื้อขายที่ซับซ้อนและมีความสามารถในการทำงานที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ คุณสมบัติของ MQL5 การซื้อขายอัตโนมัติ (Automated Trading): สามารถเขียนโปรแกรมการซื้อขายที่ทำงานโดยอัตโนมัติตามกลยุทธ์ที่กำหนด การสร้างตัวชี้วัดทางเทคนิค (Technical Indicators): สามารถสร้างตัวชี้วัดใหม่ที่ไม่สามารถพบในตัวชี้วัดที่มีมาให้แล้วใน MT5 การทดสอบย้อนกลับ (Backtesting): มีเครื่องมือสำหรับการทดสอบกลยุทธ์การซื้อขายกับข้อมูลในอดีต การปรับแต่งและการสร้างเครื่องมือการวิเคราะห์ (Custom Tools): สามารถสร้างและปรับแต่งเครื่องมือการวิเคราะห์ได้ตามความต้องการ Expert Advisors (EAs): โปรแกรมที่ทำการซื้อขายอัตโนมัติตามกฎและเงื่อนไขที่ตั้งไว้ Expert Advisors (EAs): โปรแกรมที่ทำการซื้อขายอัตโนมัติตามกฎและเงื่อนไขที่ตั้งไว้ Custom Indicators: ตัวชี้วัดที่สร้างขึ้นเองตามความต้องการของผู้ใช้ Scripts: โปรแกรมที่ทำการซื้อขายหรือการวิเคราะห์ที่ต้องการดำเนินการเพียงครั้งเดียว Libraries: ฟังก์ชันหรือโมดูลที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ในหลายโปรแกรม การเรียนรู้ MQL5 จะมีประโยชน์อย่างมากสำหรับนักเทรดที่ต้องการสร้างและทดสอบกลยุทธ์การซื้อขายของตนเอง โดยสามารถเข้าถึงเอกสารและคู่มือการใช้งานได้ที่เว็บไซต์ของ MetaQuotes และชุมชนผู้ใช้งาน MT5 หลังจากที่เราได้รู้แล้วว่าภาษา mql5 เอาไว้ทำอะไรได้บ้าง บางท่านอยากจะลองเขียนได้ด้วยตนเอง วันนี้เรามาเริ่มทำความเข้าใจทีละส่วนพื้นฐานไปพร้อมๆกันเลยนะครับ Variables หรือตัวแปร ต้องประกาศไว้ส่วนบนสุด ก่อนใช้งานทุกครั้ง ขื่อที่ประกาศต้องไม่ซ้ำกันกับชื่ออื่นๆที่เคยตั้งขึ้นไปแล้ว ใช้สำหรับเก็บค่าต่างๆของโปรแกรม ประเภทของตัวแปร char, short, int, long, uchar, ushort, uint, ulong – integers color - เป็นค่าของสีที่ต้องการแสดง datetime - เก็บวันที่และเวลา bool - เก็บ true และ false double ประเภททศนิยมที่มีความแม่นยำ 2 เท่า float ประเภททศนิยมที่มีความแม่นยำ string ใช้สำหรับเก็บข้อมูลที่เป็นตัวอักษรหรือประโยคต่างๆสำหรับบทความนี้ จะพาทุกท่านมาดูวิธีการเขียน MQL5 แจ้งเตือนผ่าน Line Notify กันนะครับ อันดับแรกเพื่อนๆ ต้องสร้างกลุ่มไลน์ของตัวเองขึ้นมาก่อน 1 กลุ่มและเพิ่มเพื่อนที่เป็นบัญชีทางการ Official ที่มีชื่อว่า LINE Notify เข้ามาในกลุ่มด้วยนะครับ ซึ่ง LINE Notify ตัวนี้แหละที่จะเป็นตัวกลางที่จะคอยส่งการแจ้งเตือนต่างๆ เข้าไปในกลุ่มครับ |
![]() MQL5 คืออะไร และมาเริ่มเรียนรู้ภาษา MQL5 กันเถอะ MQL5 (MetaQuotes Language 5) คือภาษาการเขียนโปรแกรมที่พัฒนาโดยบริษัท MetaQuotes Software Corp. สำหรับการเขียนโปรแกรมการซื้อขาย (trading) อัตโนมัติและตัวชี้วัดทางเทคนิค (technical indicators) ในแพลตฟอร์ม MetaTrader 5 (MT5) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายยอดนิยมสำหรับการซื้อขายฟอเร็กซ์ (Forex) สินค้าโภคภัณฑ์ (commodities) และสินทรัพย์ทางการเงินอื่น ๆ MQL5 มีลักษณะคล้ายกับภาษาการเขียนโปรแกรม C++ แต่มีการออกแบบเพื่อการซื้อขายโดยเฉพาะ ภาษานี้รองรับการเขียนโปรแกรมการซื้อขายที่ซับซ้อนและมีความสามารถในการทำงานที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ คุณสมบัติของ MQL5 การซื้อขายอัตโนมัติ (Automated Trading): สามารถเขียนโปรแกรมการซื้อขายที่ทำงานโดยอัตโนมัติตามกลยุทธ์ที่กำหนด การสร้างตัวชี้วัดทางเทคนิค (Technical Indicators): สามารถสร้างตัวชี้วัดใหม่ที่ไม่สามารถพบในตัวชี้วัดที่มีมาให้แล้วใน MT5 การทดสอบย้อนกลับ (Backtesting): มีเครื่องมือสำหรับการทดสอบกลยุทธ์การซื้อขายกับข้อมูลในอดีต การปรับแต่งและการสร้างเครื่องมือการวิเคราะห์ (Custom Tools): สามารถสร้างและปรับแต่งเครื่องมือการวิเคราะห์ได้ตามความต้องการ Expert Advisors (EAs): โปรแกรมที่ทำการซื้อขายอัตโนมัติตามกฎและเงื่อนไขที่ตั้งไว้ Expert Advisors (EAs): โปรแกรมที่ทำการซื้อขายอัตโนมัติตามกฎและเงื่อนไขที่ตั้งไว้ Custom Indicators: ตัวชี้วัดที่สร้างขึ้นเองตามความต้องการของผู้ใช้ Scripts: โปรแกรมที่ทำการซื้อขายหรือการวิเคราะห์ที่ต้องการดำเนินการเพียงครั้งเดียว Libraries: ฟังก์ชันหรือโมดูลที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ในหลายโปรแกรม การเรียนรู้ MQL5 จะมีประโยชน์อย่างมากสำหรับนักเทรดที่ต้องการสร้างและทดสอบกลยุทธ์การซื้อขายของตนเอง โดยสามารถเข้าถึงเอกสารและคู่มือการใช้งานได้ที่เว็บไซต์ของ MetaQuotes และชุมชนผู้ใช้งาน MT5 หลังจากที่เราได้รู้แล้วว่าภาษา mql5 เอาไว้ทำอะไรได้บ้าง บางท่านอยากจะลองเขียนได้ด้วยตนเอง วันนี้เรามาเริ่มทำความเข้าใจทีละส่วนพื้นฐานไปพร้อมๆกันเลยนะครับ Variables หรือตัวแปร ต้องประกาศไว้ส่วนบนสุด ก่อนใช้งานทุกครั้ง ขื่อที่ประกาศต้องไม่ซ้ำกันกับชื่ออื่นๆที่เคยตั้งขึ้นไปแล้ว ใช้สำหรับเก็บค่าต่างๆของโปรแกรม ประเภทของตัวแปร char, short, int, long, uchar, ushort, uint, ulong – integers color - เป็นค่าของสีที่ต้องการแสดง datetime - เก็บวันที่และเวลา bool - เก็บ true และ false double ประเภททศนิยมที่มีความแม่นยำ 2 เท่า float ประเภททศนิยมที่มีความแม่นยำ string ใช้สำหรับเก็บข้อมูลที่เป็นตัวอักษรหรือประโยคต่างๆ |
![]() HTML คืออะไร เกี่ยวข้องกับการทำ SEO อย่างไร HTML (HyperText Markup Language) คือภาษามาร์กอัปที่ใช้สำหรับสร้างและจัดรูปแบบเอกสารบนเว็บ ซึ่งประกอบด้วยโครงสร้างพื้นฐานของเว็บไซต์ทั้งหมด เช่น ข้อความ รูปภาพ ลิงก์ และองค์ประกอบต่าง ๆ ที่ปรากฏบนหน้าเว็บเบราว์เซอร์ ส่วนประกอบหลักของ HTML: Tags: ใช้เพื่อสร้างองค์ประกอบต่าง ๆ เช่น tag h1 p a img Attributes: ใช้เพื่อกำหนดคุณสมบัติของ tags เช่น src href alt Elements: การรวมกันของ tags และเนื้อหา Document Structure: โครงสร้างพื้นฐานของ HTML ประกอบด้วย tag html, tag body การทำ SEO (Search Engine Optimization) เกี่ยวข้องกับ HTML อย่างไร SEO เป็นกระบวนการปรับปรุงเว็บไซต์เพื่อให้มีการจัดอันดับที่ดีขึ้นในผลการค้นหาของเครื่องมือค้นหา เช่น Google ซึ่ง HTML มีบทบาทสำคัญในการทำ SEO ด้วยวิธีการดังนี้ 1. ใช้โครงสร้างที่เหมาะสม 2. Meta Tags ใช้ tag title กำหนดชื่อหน้าเว็บ ซึ่งสำคัญมากในการจัดอันดับ ใช้ tag meta name=description content=...>: คำอธิบายหน้าเว็บที่ปรากฏในผลการค้นหา 3. Alt Text สำหรับรูปภาพ ใช้ attribute alt ใน tag img เพื่ออธิบายรูปภาพ ซึ่งช่วยในการค้นหารูปภาพและการเข้าถึงของผู้ที่มีความบกพร่องทางสายตา 4. การใช้ URL ที่อ่านง่าย การใช้ URL ที่มีความหมายและเกี่ยวข้องกับเนื้อหา เช่น example.com/seo-tips 5. Internal และ External Links การลิงก์ไปยังหน้าภายในเว็บไซต์และเว็บไซต์ภายนอกช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและปรับปรุง SEO 6. Structured Data ใช้ Schema Markup (รูปแบบข้อมูลที่มีโครงสร้าง) เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเนื้อหาแก่เครื่องมือค้นหา เช่น รีวิวสินค้า รายการกิจกรรม 7. ความเร็วในการโหลดหน้าเว็บ HTML ที่มีการเขียนอย่างมีประสิทธิภาพสามารถช่วยให้หน้าเว็บโหลดเร็วขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการจัดอันดับ SEO การเขียน HTML ที่ดีและถูกต้องไม่เพียงแต่ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณเป็นระเบียบและสวยงาม แต่ยังเป็นการปรับปรุงโอกาสในการค้นหาและเพิ่มประสิทธิภาพ SEO ทำให้เว็บไซต์ของคุณมีโอกาสปรากฏในอันดับต้น ๆ ของผลการค้นหาได้มากขึ้น |
|
ดูทั้งหมด |
![]() มะเร็งเม็ดเลือดขาว (ลิวคีเมีย- Leukemia) โรคอันตรายที่ห้ามมองข้ามของน้องแมว ลิวคีเมียหรือมะเร็งเม็ดเลือดขาว ในแมว (Feline Leukemia Virus - FeLV) เป็นกลุ่มของโรคมะเร็งที่เริ่มต้นในไขกระดูก ซึ่งเป็นเนื้อเยื่ออ่อนที่อยู่ภายในกระดูก โดยลิวคีเมียเกิดขึ้นเมื่อเซลล์เม็ดเลือดขาวเจริญเติบโตผิดปกติและเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว เซลล์มะเร็งเหล่านี้จะเบียดบังการสร้างเซลล์เม็ดเลือดปกติ ทำให้ร่างกายขาดเซลล์เม็ดเลือดที่ทำหน้าที่สำคัญ เช่น เซลล์เม็ดเลือดแดงที่นำออกซิเจน เกล็ดเลือดที่ช่วยในการแข็งตัวของเลือด และเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ต่อสู้กับการติดเชื้อ อาการของลิวคีเมีย อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิดของลิวคีเมีย แต่โดยทั่วไปอาจมีอาการดังนี้ อ่อนเพลีย เหนื่อยล้า ซีด มีไข้ หรือหนาวสั่น ติดเชื้อง่าย เลือดออกง่าย เช่น เลือดกำเดาไหล เลือดออกตามไรฟัน มีจุดหรือจ้ำเลือดตามตัว ปวดกระดูกหรือข้อ ต่อมน้ำเหลืองโต ตับหรือม้ามโต น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ การแพร่กระจายของเชื้อโรค ไวรัสลิวคีเมียสามารถติดต่อจากแมวสู่แมวได้หลายทาง เช่น การเลียกัน หรือใช้ชามอาหาร น้ำ และอุปกรณ์ร่วมกัน การกัดกัน การติดจากแม่แมวสู่ลูกแมวขณะตั้งครรภ์หรือให้นม การถ่ายเลือด (หากไม่ได้คัดกรองเลือดก่อน) โดยเฉพาะแมวที่ออกไปนอกบ้านบ่อย หรืออาศัยร่วมกับแมวหลายตัว มีความเสี่ยงในการติดเชื้อมากขึ้น การรักษาลิวคีเมีย มีหลายวิธีขึ้นอยู่กับชนิดของลิวคีเมีย ระยะของโรค และสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย วิธีการรักษาหลักๆ เคมีบำบัด (Chemotherapy): การใช้ยาเพื่อฆ่าเซลล์มะเร็ง รังสีรักษา (Radiation therapy): การใช้รังสีพลังงานสูงเพื่อทำลายเซลล์มะเร็ง การปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิด (Stem cell transplantation) หรือการปลูกถ่ายไขกระดูก (Bone marrow transplantation): การเปลี่ยนไขกระดูกที่ถูกทำลายด้วยไขกระดูกใหม่ที่แข็งแรง การรักษาแบบมุ่งเป้า (Targeted therapy): การใช้ยาที่ออกฤทธิ์จำเพาะต่อเซลล์มะเร็ง ภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy): การกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ต่อสู้กับเซลล์มะเร็ง การป้องกัน ฉีดวัคซีนป้องกันลิวคีเมีย: แมวควรได้รับวัคซีนตั้งแต่ยังเล็ก โดยเฉพาะแมวที่มีความเสี่ยงสูง เลี้ยงระบบปิด: ลดความเสี่ยงในการสัมผัสแมวที่อาจติดเชื้อ ตรวจเลือด: แนะนำให้ตรวจหา FeLV หากรับแมวใหม่เข้าบ้าน หรือตรวจประจำปี หลีกเลี่ยงการใช้ของร่วมกันกับแมวที่ยังไม่ได้รับการตรวจโรค ผลกระทบต่อสุขภาพแมว ลิวคีเมียส่งผลต่อสุขภาพของแมวในหลายด้าน เช่น: ภูมิคุ้มกันต่ำ ติดเชื้ออื่นง่าย เช่น โรคทางเดินหายใจ ผิวหนัง หรือช่องปาก โลหิตจาง อ่อนเพลีย กินน้อย น้ำหนักลด มะเร็งเม็ดเลือดขาว หรือเนื้องอกในอวัยวะต่างๆ อายุขัยสั้นลง หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม การดูแลแมวที่ติดเชื้อ แมวที่ติดเชื้อ FeLV ยังสามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างมีคุณภาพ หากได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม เช่น: พาไปพบสัตวแพทย์เป็นประจำ ให้อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เลี้ยงในบ้าน หลีกเลี่ยงการติดเชื้อแทรกซ้อน หากเลี้ยงแมวและไม่แน่ใจว่าแมวติดเชื้อหรือไม่ ควรพาไปตรวจเลือดที่คลินิกหรือโรงพยาบาลสัตว์ เพื่อความสบายใจและการวางแผนดูแลสุขภาพที่เหมาะสมกันนะครับ |
![]() รีวิว petkit pura max ห้องน้ำแมวอัตโนมัติ ได้มีโอกาสซื้อ Petkit Pura Max มา ซึ่งเป็นห้องน้ำแมวอัตโนมัติที่มีฟังก์ชันพิเศษหลายอย่างออกแบบมาเพื่อความสะดวกของเจ้าของและสุขภาพของแมว พร้อมกับเทคโนโลยีที่ช่วยทำความสะอาดอัตโนมัติ ลดกลิ่น และสามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันเพื่อการควบคุมและติดตามการใช้งานได้แบบเรียลไทม์ |
![]() แมววิเชียรมาศ ประวัติความเป็นมาและความเชื่อ แมววิเชียรมาศ แมวแห่งสยาม แมววิเชียรมาศ หรือที่รู้จักกันในชื่อ "แมวสยาม" เป็นแมวพันธุ์ไทยที่มีลักษณะเด่นเป็นมากกว่าแค่แมวเลี้ยงทั่วไปเพราะในประเทศไทยของเรา แมวพันธุ์นี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมมาอย่างยาวนาน ประวัติความเป็นมา ต้นกำเนิดในสยาม: แมววิเชียรมาศมีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย หรือที่เรียกกันในสมัยก่อนว่าสยาม จึงได้ชื่อว่า "แมวสยาม" (Siamese cat) ไปด้วย โดยมีหลักฐานปรากฏในสมุดข่อยโบราณว่าเป็นแมวมงคลที่เลี้ยงไว้ในวัง ความหมายของชื่อ: ชื่อ "วิเชียรมาศ" มีความหมายว่า "เพชรแห่งดวงจันทร์" ซึ่งสื่อถึงลักษณะเด่นของแมวพันธุ์นี้ที่มีดวงตาสีฟ้าสดใสเหมือนเพชร และขนสีขาวนวลเหมือนแสงจันทร์ แมวมงคล: ในสมัยโบราณเชื่อกันว่าแมววิเชียรมาศเป็นแมวมงคล ช่วยนำโชคลาภมาให้ และเป็นสัญลักษณ์ของความสูงส่ง จึงมักพบเห็นได้ในวรรณคดีไทยและภาพวาดโบราณ การเผยแพร่ไปทั่วโลก: ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 แมววิเชียรมาศได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ชาวต่างชาติ โดยเฉพาะในประเทศอังกฤษและสหรัฐอเมริกา ทำให้สายพันธุ์นี้แพร่หลายไปทั่วโลกและกลายเป็นที่รู้จักในนาม Siamese cat สัญลักษณ์ของประเทศไทย: แมววิเชียรมาศเคยถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ที่จัดขึ้นในประเทศไทยหลายครั้ง เนื่องจากเป็นสัญลักษณ์ที่เป็นที่รู้จักและเป็นที่รักของคนไทย |
![]() มาทำความรู้จัก ชูการ์ไกลเดอร์และโครงสร้างของชูการ์ไกลเดอร์กัน ชูการ์ไกลเดอร์เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กที่อาศัยอยู่ในเวลากลางคืน พื้นเมืองของออสเตรเลีย นิวกินี และบางส่วนของอินโดนีเซีย พวกเขามีความสามารถในการร่อนในอากาศ คล้ายกับกระรอกบิน ด้วยเยื่อพิเศษที่ยืดจากข้อมือถึงข้อเท้า โครงสร้างของชูการ์ไกลเดอร์ 1. หัวและใบหน้า จมูก: สีชมพูและขนาดเล็ก ใบหน้า: โดยทั่วไปจะมีสีขาวและมีแถบสีดำตรงกลาง ปากและฟัน: มีฟันหน้าสองซี่ที่เด่นชัด 2. หูและตา หู: ใหญ่และคล้ายกับของจิ้งจอก ช่วยให้การได้ยินชัดเจน ตา: ใหญ่ ช่วยในการมองเห็นในเวลากลางคืน 3. แขนขา นิ้วมือ: มีห้านิ้วมือแต่ละข้าง และมีเล็บ นิ้วเท้า: มีสี่นิ้วเท้าแต่ละข้างและมีเล็บ และมีนิ้วโป้งเพิ่มอีกหนึ่งนิ้วที่ไม่มีเล็บ 4. ลำตัว เยื่อร่อน (Patagium): เยื่อบางๆ ที่ยืดจากข้อมือถึงข้อเท้า ช่วยให้พวกเขาร่อน ขนหน้าท้อง: มีสีครีมถึงสีเทาซีด 5. หาง ลักษณะ: ขนฟู ใช้ในการทรงตัวและควบคุมทิศทางขณะร่อน ปลายหาง: มักจะเป็นสีดำ 6. ส่วนอื่นๆที่สังเกตุได้ ต่อมกลิ่น: ตัวผู้มีต่อมกลิ่นที่หน้าท้องคล้ายเส้นด้าย และผลิตกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ กระเป๋าหน้าท้อง: ตัวเมียมีกระเป๋าหน้าท้องสำหรับเลี้ยงและดูแลลูกน้อย น้ำลาย: มีลักษณะกลิ่นเฉพาะตัวของชูการ์ไกลเดอร์ เพศผู้ มักจะขนร่วงเป็นวงกลมช่วงบริเวณกลางศีรษะ |
![]() การเลี้ยงและดูแลชูการ์ไกลเดอร์ ฉบับมือใหม่ เรื่องที่มือใหม่อยากรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงดูชูการ์ไกลเดอร์ มักจะมีคำถามว่า น้องกินอะไรได้บ้าง ? น้องเลี้ยงยากมั้ย ? น้องส่งเสียงดังมั้ย ? น้องมีกลิ่นเหม็นไหม ? น้องนอนเวลาไหนบ้าง ? การจัดบ้านจัดกรงน้อง ? เดี๋ยววันนี้เรามาไขข้อกระจ่าง ของเรื่องพวกนี้ไปด้วยกันนะครับ 1. ชูการ์ไกลเดอร์เลี้ยงยากมั้ย ? การเลี้ยงชูการ์ไกลเดอร์ เป็นสัตว์ที่ชอบนอนในเวลากลางวัน และมักจะตื่นตัว และออกมากระโดดในเวลากลางคืน ดังนั้น้วบาทีาเหมาะสมในการมาเล่นกับน้องๆ คือในช่วงค่ำๆ หรือช่วงมืดๆ ดังนั้นคนที่มีงานประจำ หรือเวลางานในช่วงกลางวันจะ ก็จะสามารถเลี้ยงน้องๆได้อย่างสยายเลย 2. ชูการ์ไกลเดอร์มีกลิ่นตัวไหม ? ขอตอบเลยว่า ชูการ์ไกลเดอร์จะมีกลิ่นตัวเฉพาะตัว และค่อนข้างฉุนเลยทีเดียวถ้าเลี้ยงรวมกันหลายตัว แต่ถ้าเลี้ยง 1-2 ตัวก็ไม่ค่อยกังวลเรื่องกลิ่นเท่าไหร่ครับ ส่วนการทำความสะอาดสามารถอาบน้ำได้ในเพศผู้ แต่เพศเมียจะไม่แนะนำให้อาบน้ำเพราะน้ำอาจเข้าไปในกระเป๋าหน้าท้องของเพศเมีย ทำให้อับชื้นและเป็นโรคได้ 3. ชูการ์ไกลเดอร์กินอะไรได้บ้าง ? เรียกว่าผลไม้ตามฤดูกาล ในไทยที่มีรสหวานชูการ์ไกลเดอร์สามารถรับประทานได้ทั้งหมดเลยครับ และที่สำคัญอาหารประเภทโปรตีนก็เป็นอาหารที่สำคัญเช่นกันที่ควรให้กินประจำอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง เช่น จิ้งหรีด หนอนนก หนอนแว็ก หรือหนอนประเภทต่างๆ ที่มีโปรตีนที่สัตว์สามารถกินได้ ชูการ์ไกลเดอร์ ชอบหมดเลย 4. ชูการ์ไกลเดอร์ส่งเสียงดังไหม ? เรียกได้ว่า การเลี้ยงชูการไกลเดอร์ใครที่กังวลเรื่องเสียงสามารถตัดทิ้งได้ซะส่วนใหญ่เลย เพราะน้องแทบจะไม่ส่งเสียงเลย ยกเว้นตอนดึกๆ จะมีการเห่าเล่นกันกับเพื่อนๆ บ้าง แต่ไม่นานจนเกินไป หรือเสียงดังจนข้างห้องตกใจแน่นอน 5. การจัดกรงชูการ์ไกลเดอร์ ที่อยู่ของชูการ์ก็ถือเป็นสิ่งสำคัญ ที่ทำให้สุขภาพจิตของชูการ์ไกลเดอร์มีความสุข ไม่ควรแคบหรือกว้างเกินไป และควรมีกิ่งไม้ในกรง พาดหลายๆมุม เพื่อให้ชูการ์ไกลเดอร์ได้กระโดดเล่น และเป็นที่ลับฟันของเหล่าชูการ์ไกลเดอร์ได้อีกด้วย เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับข้อมูลดีๆ ที่ได้นำเสนอ หากมือใหม่ท่านใดมีข้อสงสัย คอมเม้นแสดงความคิดเห็นกันได้เลยนะครับ เดี๋ยวแอดจะมาช่วยไขข้อสงสัยให้นะครับ |
![]() แมวกินหญ้ามีประโยชน์หลายประการต่อสุขภาพข ดังนี้ ช่วยในเรื่องการย่อยอาหาร: หญ้ามีไฟเบอร์ซึ่งช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหารของแมวและช่วยให้การเคลื่อนไหวของลำไส้เป็นไปได้อย่างปกติ ช่วยในการขับถ่าย: หญ้าช่วยในการขับถ่ายของเสียและก้อนขนที่ติดอยู่ในระบบย่อยอาหารของแมวให้ออกมาได้ง่ายขึ้น สารอาหารและเอนไซม์: หญ้าบางชนิดมีวิตามินและเอนไซม์ที่มีประโยชน์สำหรับแมว เช่น โฟลิกและคลอโรฟิลล์ บรรเทาอาการท้องอืด: หญ้าช่วยให้แมวรู้สึกสบายขึ้นหากมีอาการท้องอืดหรือไม่สบายท้อง ช่วยในการทำความสะอาดช่องปาก: การเคี้ยวหญ้าช่วยในการขจัดคราบที่ฟันและทำความสะอาดช่องปากของแมว อย่างไรก็ตาม แมวไม่ควรกินหญ้าในปริมาณมากเกินไป และควรแน่ใจว่าหญ้าที่แมวกินไม่ปนเปื้อนสารเคมีหรือยาฆ่าแมลงที่อาจเป็นอันตรายต่อแมว |
|
ดูทั้งหมด |
![]() ประวัติพญานาค และพญานาคมีกี่เหล่า ? ประวัติพญานาค เป็นเรื่องราวที่สืบทอดกันมายาวนานในวัฒนธรรมของชาวไทย ลาว เขมร และกลุ่มชนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในศาสนาพุทธและฮินดู ซึ่งมีทั้งในตำนาน ความเชื่อ และคำสอนทางศาสนา ในศาสนาฮินดู พญานาคมีความสำคัญในเทพปกรณัมฮินดู โดยเป็นบริวารของเทพเจ้าหลายองค์ เช่น พระวิษณุบรรทมบนอนันตนาคราช (พญานาคที่มีหลายเศียร) ในเกษียรสมุทร วาสุกี พญานาคอีกตนหนึ่งถูกใช้เป็นเชือกในการกวนเกษียรสมุทรเพื่อสร้างน้ำอมฤต มีความเชื่อว่าพญานาคอาศัยอยู่ในบาดาลโลก ซึ่งเป็นโลกใต้ดินที่เต็มไปด้วยสมบัติ ในพระพุทธศาสนา พญานาคมีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในพุทธประวัติหลายครั้ง เช่น พญานาคตนหนึ่งชื่อมุจลินท์ได้แผ่พังพานบังฝนให้พระพุทธเจ้าขณะบำเพ็ญเพียร ในตำนานการสร้างพระธาตุสำคัญหลายแห่ง มักปรากฏเรื่องราวของพญานาคที่เข้ามามีส่วนร่วมในการปกป้องรักษาพระธาตุ พญานาคถือเป็นสัตว์กึ่งเทพ มีฤทธิ์เดช แต่ไม่สามารถบรรลุธรรมได้ จัดอยู่ในสุคติภูมิ สถิตอยู่ในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ในวัฒนธรรมไทยและลาว: มีความเชื่อว่าพญานาคเป็นเจ้าแห่งน้ำ อาศัยอยู่ในแม่น้ำโขงและแหล่งน้ำต่างๆ ปรากฏในตำนานพื้นเมือง นิทานปรัมปรา และพิธีกรรมต่างๆ เช่น บั้งไฟพญานาค มีการสร้างรูปเคารพพญานาคตามวัดวาอารามและสถานที่สำคัญต่างๆ เพื่อความสิริมงคลและการปกป้องคุ้มครอง ตามคัมภีร์ทางศาสนาพราหมณ์-ฮินดูและพระพุทธศาสนา รวมถึงความเชื่อพื้นเมืองในภูมิภาคต่างๆ ได้มีการกล่าวถึงพญานาคไว้หลายตระกูลหรือเหล่า ซึ่งมีการจำแนกตามลักษณะสีผิวและคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป หลักๆ แล้วมักจะแบ่งออกเป็น 4 ตระกูลใหญ่ ดังนี้ 4 เหล่าพญานาค (จตุรนาค) เหล่า ลักษณะเด่น ที่อยู่ ความสามารถ วิรูปักข์ มีกายสีทอง อาศัยอยู่ในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา เป็นราชาใหญ่แห่งนาคทั้งหมด แปลงกายได้เก่ง มีฤทธิ์มาก เอราปถ มีกายสีเขียว อยู่ในแผ่นดิน มีอำนาจปกครองนาคชั้นสูง ฉัพยาปุตตะ มีกายสีรุ้ง อยู่ในน้ำ (แม่น้ำ ลำธาร) แปลงร่างเป็นมนุษย์ได้ กัณหาโคตมะ มีกายสีดำเข้ม หรือดำอมม่วง อยู่ใต้ดิน/บาดาล (นาคพิภพ) มีฤทธิ์ทางไสยศาสตร์ 1. ตระกูลวิรูปักษ์ เป็นพญานาคที่มีสีเขียวบ้างก็ว่ามีสีทอง มีฤทธิ์เดชมาก มักเป็นผู้นำของพญานาคทั้งปวง บางตำรากล่าวว่าเป็นพญานาคชั้นสูงที่อาศัยอยู่ในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา 2. ตระกูลเอราปถ เป็นพญานาคที่มีสีน้ำเงิน บ้างก็ว่ามีสีม่วง มีความสามารถในการแปลงกายได้หลากหลาย และมีความเกี่ยวข้องกับน้ำ 3. ตระกูลฉัพพยาปุตตะ เป็นพญานาคที่มีสีรุ้ง หรือมีหลายสี บ้างก็ว่ามีสีทองคำ มีความสง่างามและมีฤทธิ์ในทางเมตตา 4 .ตระกูลกัณหาโคตมกะ เป็นพญานาคที่มีสีดำ บ้างก็ว่ามีสีน้ำตาลเข้ม มีความดุดันและมีอำนาจในการทำลายล้าง |
![]() ประวัติผีเปรต กรรมที่ทำให้เกิดเป็นเปรต ผีเปรต เป็นผีในความเชื่อของชาวไทยและชาวพุทธในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในไทย ลาว และกัมพูชา มีลักษณะเฉพาะคือ รูปร่างสูงใหญ่ ผอมแห้ง ผิวดำปากเท่ารูเข็ม เสียงร้องคร่ำครวญเวทนา มักปรากฏตัวในเวลากลางคืนในป่า ชายป่า หรือวัดร้าง ประวัติและความเชื่อเกี่ยวกับ "ผีเปรต" ในพระพุทธศาสนา: คำว่า "เปรต" มาจากภาษาสันสกฤตว่า "เปฺรต" (प्रेत) และภาษาบาลีว่า "เปต" (peta) หมายถึง ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว หรือวิญญาณของผู้ตาย โดยเชื่อว่าเป็นภพภูมิหนึ่งในกามภูมิที่เรียกว่า "เปตภูมิ" หรือ "เปรตวิสัย" ซึ่งเป็นแดนแห่งความทุกข์ทรมานสำหรับผู้ที่เคยทำกรรมชั่วไว้เมื่อครั้งเป็นมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรรมที่เกี่ยวข้องกับความตระหนี่ถี่เหนียว ไม่เคยทำบุญให้ทาน หรือเคยเบียดเบียนผู้อื่น หรือ "เปรต" มาจากภาษาบาลีว่า "เปตะ" (Peta) แปลว่า “ผู้ละโลกนี้ไปแล้ว” แต่ในความหมายแคบหมายถึง “สัตว์ที่เกิดในเปรตภูมิ” ซึ่งเป็นหนึ่งใน อบายภูมิ 4 ได้แก่ นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน ในคติชนวิทยาไทย: ความเชื่อเรื่องเปรตในไทยได้รับอิทธิพลจากพระพุทธศาสนา แต่ก็มีการผสมผสานกับความเชื่อพื้นเมืองเกี่ยวกับวิญญาณบรรพบุรุษและการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ตาย ลักษณะรูปร่างที่โดดเด่นของเปรตในความเชื่อไทย เช่น ตัวสูงผอม คอยาว ปากเล็ก อาจเป็นภาพจำลองของผู้ที่ได้รับความทุกข์ทรมานจากความอดอยาก บทบาทในสังคมไทย: เปรตมีบทบาทสำคัญในการสอนเรื่องกฎแห่งกรรมและการทำบุญในสังคมไทย มีการเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเปรตในวรรณกรรม จิตรกรรม และประเพณีต่างๆ เพื่อเตือนใจให้ผู้คนทำความดี ละเว้นความชั่ว และให้ความสำคัญกับการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว เปรตเกิดจากผลของ กรรมชั่ว เช่น ลบหลู่คุณพ่อแม่ กล่าวร้ายพระสงฆ์ ยักยอกของสงฆ์ เบียดเบียนผู้อื่นอย่างรุนแรง ลักษณะของเปรตตามความเชื่อไทย ตัวสูงหลายศอก ผิวดำซีด ผอมแห้ง สูงชะลูดเหมือนต้นตาล ผอมโซ มีแต่หนังหุ้มกระดูก คอยาว ท้องโต มือใหญ่เท่าใบลาน แต่มีปากเล็กมากเท่ารูเข็ม กินอะไรก็ไม่ได้ เพราะเผาไหม้หรือกลายเป็นของอุจาด ร้องไห้โหยหวนอยู่เสมอเพราะความหิวและทุกข์ทรมาน หิวโหยอยู่ตลอดเวลา ไม่สามารถกินอาหารได้เนื่องจากปากเล็ก มักปรากฏตัวเพื่อขอส่วนบุญจากผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ มักปรากฏในงานบุญต่างๆ ที่มีการอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ตาย หรือปรากฏในสถานที่ที่เคยทำความชั่วไว้ |
![]() ตำนานผีกระสือเป็นเรื่องเล่าพื้นบ้านที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีหลากหลายเรื่องราวและรายละเอียดที่แตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่น แต่โดยทั่วไปแล้วจะมีลักษณะร่วมกันประมาณนี้ครับ ลักษณะทั่วไปของผีกระสือ มีหัวและเครื่องใน กระสือมักถูกเล่าว่าเป็นผีผู้หญิงที่มีเพียงส่วนหัวและเครื่องใน (เช่น ไส้ หัวใจ ปอด) ที่ล่องลอยไปในเวลากลางคืน โดยไม่มีลำตัว และมีแสงเรือง หัวและเครื่องในของกระสือมักมีแสงเรืองสีเขียวหรือแดงออกมา ชอบ กินของโสโครก เชื่อกันว่ากระสือจะหากินของสกปรก เช่น อุจจาระ ซากสัตว์ หรือรกเด็ก กลัวสิ่งสกปรกและหนาม มีความเชื่อว่ากระสือกลัวสิ่งสกปรกและหนามแหลม ทำให้ชาวบ้านมักนำสิ่งเหล่านี้มาป้องกันบ้านเรือน ที่มาและตำนาน การทำผิดครู ตำนานหนึ่งเล่าว่ากระสือเกิดจากผู้หญิงที่เรียนวิชาอาคมแต่ทำผิดครู หรือควบคุมวิชาไม่ได้ ทำให้กลายเป็นผีที่มีเพียงหัวและเครื่องใน การกินของต้องห้าม อีกตำนานเล่าว่ากระสือเป็นผู้หญิงที่กินของต้องห้ามทางไสยศาสตร์ ทำให้ร่างกายกลายเป็นเช่นนั้น คำสาปแช่ง บางความเชื่อก็ว่ากระสือเกิดจากผู้หญิงที่ถูกสาปแช่ง ทายาท มีความเชื่อว่ากระสือสามารถถ่ายทอดความเป็นกระสือสู่ทายาทได้ โดยมักจะเป็นผู้หญิงในครอบครัว ความเชื่อและอิทธิพลทางวัฒนธรรม ความกลัวและการป้องกัน: ความเชื่อเรื่องกระสือทำให้เกิดความหวาดกลัวในหมู่ชาวบ้าน โดยเฉพาะในเวลากลางคืน และนำไปสู่การคิดค้นวิธีการป้องกันต่างๆ นิทานและสื่อบันเทิง: เรื่องราวของกระสือเป็นที่นิยมในนิทานพื้นบ้าน ภาพยนตร์ ละคร และสื่อบันเทิงต่างๆ ความหลากหลายในแต่ละภูมิภาค: ชื่อเรียกและลักษณะของผีที่มีความคล้ายคลึงกับกระสือปรากฏอยู่ในหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น "Penanggalan" ในมาเลเซีย "Kuyang" ในอินโดนีเซีย และ "Ahp" ในกัมพูชา ซึ่งอาจมีรายละเอียดแตกต่างกันไปบ้าง โดยรวมแล้ว ตำนานผีกระสือเป็นส่วนหนึ่งของความเชื่อพื้นบ้านที่สะท้อนถึงความกลัว สิ่งลี้ลับ และการพยายามหาคำอธิบายปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติในสังคมไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ |
![]() ประวัติของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ถือกำเนิดในครอบครัวชาวนาที่เรียบง่าย ณ บ้านสามเขา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในปีมะโรง พ.ศ. 2447 การสูญเสียบุพการีตั้งแต่ยังเด็กนับเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตของท่าน แต่ในอีกมุมหนึ่ง เหตุการณ์นี้อาจเป็นปัจจัยที่หล่อหลอมให้ท่านเป็นผู้ที่มีจิตใจเข้มแข็ง พึ่งพาตนเอง และมีความเมตตาต่อผู้อื่นอย่างลึกซึ้ง การเติบโตภายใต้การดูแลของยายและพี่สาว ทำให้ท่านได้รับการอบรมสั่งสอนในเรื่องคุณธรรมจริยธรรมตามแบบวิถีชาวบ้าน ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการดำเนินชีวิตของท่านในภายหลัง แม้จะไม่ได้มีข้อมูลปรากฏชัดเจนเกี่ยวกับชีวิตในวัยเด็กและการศึกษาเบื้องต้นของท่านมากนัก แต่เชื่อได้ว่าท่านได้รับการปลูกฝังในเรื่องของความกตัญญู ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และการดำเนินชีวิตอย่างสมถะ ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่โดดเด่นในตัวท่านเมื่อเติบโตขึ้น การอุปสมบทและการศึกษาพระธรรมวินัย: เส้นทางสู่การเป็นพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เมื่ออายุครบบวช 21 ปี หลวงปู่ดู่ได้ตัดสินใจเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ ณ วัดสะแก ซึ่งเป็นวัดสำคัญในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา การอุปสมบทครั้งนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของท่าน การได้รับฉายา "พรหมปัญโญ" เป็นนิมิตหมายอันดีที่บ่งบอกถึงสติปัญญาที่เฉลียวฉลาดและคุณธรรมที่สูงส่ง ภายใต้การดูแลของหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติการาม ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ผู้ทรงคุณ และพระอาจารย์อื่นๆ ในวัดสะแก หลวงปู่ดู่ได้ศึกษาพระธรรมวินัยอย่างแตกฉาน ท่านให้ความสำคัญกับการศึกษาทั้งภาคทฤษฎีและการปฏิบัติ ท่านไม่ได้เพียงแค่ท่องจำพระสูตรต่างๆ แต่ยังลงลึกในความหมายและนำมาประพฤติปฏิบัติในชีวิตประจำวัน หลวงปู่ดู่เป็นพระภิกษุที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัย ท่านดำรงตนอย่างสมถะ มีความสันโดษ มุ่งมั่นในการเจริญสมาธิภาวนา ท่านใช้เวลาส่วนใหญ่ในการศึกษาพระธรรม ค้นคว้าหลักธรรมคำสอน และฝึกฝนจิตใจให้บริสุทธิ์ผ่องใส การปฏิบัติอย่างจริงจังนี้เองที่เป็นพื้นฐานสำคัญให้ท่านบรรลุธรรมในระดับสูง การปฏิบัติธรรมและการแสวงหาธรรม: ความเพียรที่ไม่ย่อท้อ หลวงปู่ดู่ให้ความสำคัญกับการปฏิบัติธรรมเป็นอย่างยิ่ง ท่านมิได้ย่อท้อต่อความยากลำบากในการเจริญสมาธิภาวนา ท่านได้ศึกษาและปฏิบัติในหลายแนวทาง เพื่อให้เข้าถึงสภาวะแห่งความสงบและความรู้แจ้ง ท่านมีความเพียรอย่างสม่ำเสมอในการฝึกจิตใจให้ตั้งมั่นและพิจารณาธรรมตามความเป็นจริง ในช่วงแรกของการบวช ท่านอาจจะได้รับการถ่ายทอดวิชาจากครูบาอาจารย์ในวัดสะแก และอาจมีการเดินทางเพื่อแสวงหาครูบาอาจารย์ผู้ทรงคุณอื่นๆ เพื่อเรียนรู้แนวทางการปฏิบัติที่หลากหลาย การเดินทางและการพบปะกับพระสงฆ์ผู้มีประสบการณ์ เป็นการเปิดโลกทัศน์และเพิ่มพูนความรู้ความเข้าใจในธรรมะของท่านให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น การเป็นที่เคารพศรัทธาและการเผยแผ่ธรรม: เมตตาธรรมที่แผ่ไพศาล ด้วยปฏิปทาอันงดงาม ความเคร่งครัดในพระธรรมวินัย และเมตตาจิตที่เปี่ยมล้น ทำให้หลวงปู่ดู่เป็นที่เคารพศรัทธาของพุทธศาสนิกชนอย่างกว้างขวาง ผู้คนต่างหลั่งไหลมาขอคำแนะนำ ขอพร และร่วมทำบุญกับท่านอย่างไม่ขาดสาย หลวงปู่ดู่มิได้เพียงแต่เป็นที่พึ่งทางใจของผู้คนเท่านั้น ท่านยังเป็นครูบาอาจารย์ที่ถ่ายทอดธรรมะและแนวทางการปฏิบัติให้แก่ลูกศิษย์อย่างไม่ย่อท้อ ท่านสอนด้วยความเมตตา อดทน และเข้าใจในธรรมชาติของมนุษย์ ท่านเน้นย้ำถึงความสำคัญของการมีสติ การเจริญสมาธิภาวนา และการดำเนินชีวิตตามหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า "คาถามหาจักรพรรดิ": มรดกธรรมอันล้ำค่า สิ่งที่ทำให้หลวงปู่ดู่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้นคือการรจนา "คาถามหาจักรพรรดิ" ซึ่งเป็นบทสวดที่ได้รับการยกย่องว่ามีพุทธานุภาพสูง บทสวดนี้เป็นการรวมเอาพุทธคุณ ธรรมคุณ และสังฆคุณ มาไว้ด้วยกัน เชื่อกันว่าการสวดคาถานี้เป็นประจำจะช่วยเสริมบารมี ปรับภพภูมิให้ดีขึ้น เป็นสิริมงคลแก่ชีวิต และช่วยในการเจริญสมาธิภาวนา คาถามหาจักรพรรดิได้แพร่หลายไปอย่างรวดเร็วในหมู่ลูกศิษย์และผู้ศรัทธา และยังคงเป็นบทสวดที่ได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน ถือเป็นมรดกธรรมอันล้ำค่าที่หลวงปู่ดู่ได้มอบไว้ให้แก่พุทธศาสนิกชน ปัจฉิมวัยและการละสังขาร: การจากไปของพระอริยสงฆ์ ในวัยชรา หลวงปู่ดู่ยังคงปฏิบัติธรรมและให้คำแนะนำแก่ลูกศิษย์อย่างต่อเนื่อง แม้สังขารจะร่วงโรยไปตามกาลเวลา แต่จิตใจของท่านยังคงเข้มแข็งและเมตตา หลวงปู่ดู่ได้ละสังขารด้วยอาการสงบเมื่อวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2533 สิริอายุ 85 ปี พรรษา 65 การจากไปของท่านสร้างความโศกเศร้าเสียใจให้กับลูกศิษย์และผู้ศรัทธาทั่วประเทศ แต่ในขณะเดียวกัน ก็เป็นการแสดงให้เห็นถึงความไม่เที่ยงของสังขารตามหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา สังขารของหลวงปู่ดู่ได้รับการตั้งบำเพ็ญกุศลเป็นเวลานานถึง 459 วัน ก่อนที่จะได้รับพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเคารพและศรัทธาที่ประชาชนมีต่อท่านอย่างมากมาย คุณธรรมและจริยาวัตรที่โดดเด่น ความเมตตากรุณา: หลวงปู่ดู่เป็นพระสงฆ์ที่มีเมตตาจิตสูง ท่านให้ความช่วยเหลือและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่ทุกคนโดยไม่เลือกชั้นวรรณะ ความสมถะ: ท่านดำรงตนอย่างเรียบง่าย ไม่ยึดติดในลาภยศสรรเสริญ ความเคร่งครัดในพระธรรมวินัย: ท่านปฏิบัติตามพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด เป็นแบบอย่างที่ดีแก่พระสงฆ์และฆราวาส ความเพียรในการปฏิบัติธรรม: ท่านมีความมุ่งมั่นในการเจริญสมาธิภาวนาอย่างสม่ำเสมอ การสอนธรรมะด้วยความเข้าใจ: ท่านสามารถถ่ายทอดหลักธรรมคำสอนให้เข้าใจง่าย และนำไปปฏิบัติได้จริง หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ เป็นพระอริยสงฆ์ที่เปี่ยมด้วยคุณธรรมและเมตตาธรรม ท่านเป็นแบบอย่างของพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ และเป็นที่เคารพศรัทธาของพุทธศาสนิกชนอย่างกว้างขวาง คำสอนและ "คาถามหาจักรพรรดิ" ของท่านยังคงเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจและเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตของผู้คนมาจนถึงปัจจุบัน ประวัติชีวิตของหลวงปู่ดู่เป็นเครื่องเตือนใจให้เราเห็นถึงความสำคัญของการปฏิบัติธรรม การมีเมตตา และการดำเนินชีวิตตามหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า |
![]() คาถาเงินล้านของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ เป็นคาถาที่ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มที่ประกอบอาชีพทำมาค้าขาย ตั้งจิตอธิษฐานให้แน่วแน่กราบพระ 3 ครั้ง ก่อนสวด นั่งสมาธิ หรืออย่างน้อยทำใจให้สงบ แล้วสวด หลวงพ่อฤๅษีลิงดำแนะนำว่า ควรสวดอย่างน้อย 9 จบ หรือสวดมากเท่าที่ต้องการ ควรสวดทุกวันสม่ำเสมอ เพื่อให้จิตใจเปิดรับโชคลาภอย่างต่อเนื่อง นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ สัมปะจิตฉามิ นาสังสิโม พรหมา จะ มหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ พรหมา จะ มหาเทวา อภิลาภา ภะวันตุ เม มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุ เม มิเตภาหุหะติ พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิทถิโย พุทธัสสะ มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม สัมปะติจฉามิ เพ็ง ๆ พา ๆ หา ๆ ฤา ๆ |
![]() ผีปอบ (Pop) เป็นหนึ่งในภูตผีพื้นบ้านของไทยที่มีชื่อเสียงมาก โดยเฉพาะในภาคอีสานและภาคเหนือ คนไทยเชื่อกันว่าผีปอบคือ ดวงวิญญาณเร่ร่อน หรือ วิญญาณร้าย ที่อาศัยอยู่ในร่างของคน และมีพฤติกรรม กินเครื่องในมนุษย์หรือสัตว์ เป็นอาหารเพื่อดำรงชีวิต ลักษณะของผีปอบ ปอบมีลักษณะเหมือนคนธรรมดาในยามปกติ แต่เมื่อถึงเวลาหิวจัดหรือเวลากลางคืน วิญญาณของปอบจะออกจากร่างเพื่อหาเหยื่อ สิ่งที่ปอบต้องการคือ ตับ ไต ไส้ พุง ของมนุษย์หรือสัตว์เล็ก บางตำนานเล่าว่า ปอบสามารถเข้าสิงร่างของคนอื่นได้ และแพร่พันธุ์โดยการ "ถ่ายทอด" ไปยังผู้อื่นผ่านพิธีกรรม ต้นกำเนิดของผีปอบ มีหลายตำนานอธิบายที่มาเช่น วิชาไสยศาสตร์ผิดครู เล่ากันว่าบางคนเรียนเวทมนตร์สายดำหรือไสยศาสตร์ แต่เมื่อผิดครู (ผิดสัจจะที่ให้ไว้กับครูบาอาจารย์) วิชาเหล่านั้นจะแปรเปลี่ยนกลายเป็น "ปอบ" วิญญาณปอบจึงเข้าสิงร่างของผู้ผิดครูนั้น และสืบต่ออยู่ไปเรื่อยๆ ความโลภ บางตำนานบอกว่าคนที่มีความโลภมาก อยากได้ของวิเศษหรืออำนาจ แต่ทำผิดกฎแห่งกรรมจึงถูกสาปให้กลายเป็นผีปอบไปตลอดชีวิต กรรมจากอดีตชาติ อีกแนวคิดหนึ่งคือ เชื่อว่าคนที่เคยฆ่าสัตว์ตัดชีวิต หรือเบียดเบียนผู้อื่นมากในอดีตชาติ กลับมาเกิดใหม่แล้วต้องรับกรรมเป็นปอบ การตรวจจับและกำจัดผีปอบ ในสังคมโบราณ มีวิธีหลายแบบในการ "ตรวจสอบ" ว่าใครเป็นปอบ เช่น ใช้พิธีกรรมทางไสยศาสตร์ เช่น การทำพิธีเข้าทรง ใช้หมอผีหรือหมอธรรม (หมอพื้นบ้าน) ตรวจสอบ ใช้การสังเกตอาการ เช่น ผู้ที่ร่างกายซูบผอมผิดปกติ กินเท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม อาจถูกสงสัยว่าเป็นปอบ ในบางพิธี มีการทำ "ขันธ์ 5" หรือใช้พระเวทขับไล่ปอบออกจากร่าง ความเชื่อเรื่องผีปอบในปัจจุบัน แม้ว่าสังคมไทยปัจจุบันจะมีความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ แต่ในชนบทหลายแห่งยังมีความเชื่อเรื่องปอบอยู่ ปัจจุบันมักมีข่าวเกี่ยวกับ "หมู่บ้านผีปอบ" เช่น การไล่ผี ไล่ปอบ หรือการเชิญหมอผีมาทำพิธีขับไล่ บางพื้นที่มีการจัด "พิธีกรรมขับปอบ" เพื่อความสบายใจของชุมชน แม้จะไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ โดยสรุปแล้วผีปอป ผีปอบ คือการสะท้อนความกลัวในสังคมโบราณเกี่ยวกับสิ่งเร้นลับและการผิดศีลธรรม แม้ปัจจุบันจะถือว่าเป็นตำนานพื้นบ้าน แต่ผีปอบก็ยังคงมีบทบาทในความเชื่อ วิถีชีวิต และวัฒนธรรมท้องถิ่นของไทยอยู่เสมอ |
![]() ประวัติและตำนานของแม่นาคพระโขนง ประวัติและตำนานของแม่นาคพระโขนง แม่นาคพระโขนง เป็นหนึ่งในตำนานผีพื้นบ้านที่มีชื่อเสียงที่สุดของไทย มีการเล่าสืบต่อกันมาเป็นเวลาหลายชั่วอายุคน โดยมีทั้งในรูปแบบนิทานพื้นบ้าน บทละคร ภาพยนตร์ และวรรณกรรม วันนี้เราพามาดูประวัติของแม่นาคกันครับ เรื่องเล่าว่าในสมัยรัชกาลที่ 4 หรือราวต้นรัตนโกสินทร์ มีหญิงสาวชื่อ "นาค" อาศัยอยู่ริมคลองพระโขนง (ปัจจุบันอยู่ในเขตกรุงเทพฯ ฝั่งพระโขนง) นางนาคเองนั้นเป็นหญิงสาวที่งดงามมาก และมีคู่รักชื่อ "มาก" (บางฉบับเรียกว่า "พ่อมาก") ทั้งสองรักกันอย่างลึกซึ้ง และแต่งงานกัน ในเวลาต่อมาไม่นาน นางนาคตั้งครรภ์ แต่ในขณะนั้น พ่อมากถูกเกณฑ์ไปเป็นทหาร ระหว่างที่พ่อมากไม่อยู่ นางนาคได้เสียชีวิตอย่างน่าเศร้าขณะคลอดลูก เนื่องจากการทำคลอดในอดีตยังไม่ทันสมัยนัก ด้วยความรักและผูกพันอันแรงกล้า แม่นาคจึงกลายเป็น "ผี" ที่ยังไม่ยอมไปเกิด เพราะต้องการอยู่รอพ่อมาก เมื่อพ่อมากกลับมา เขาไม่รู้ว่านางนาคและลูกได้เสียชีวิตไปแล้ว ทั้งสองอยู่กินกันเหมือนเดิม แต่ชาวบ้านเริ่มหวาดกลัว และพยายามบอกพ่อมากว่านางนาคเป็นผี พ่อมากไม่เชื่อ จนมีเหตุการณ์สำคัญ เช่น ขณะที่นางนาคทำอาหาร เธอทำของตกใต้เรือน แล้ว "เหยียดแขนยาวผิดธรรมชาติ" ไปเก็บ พ่อมากเห็นและเริ่มเชื่อว่านางนาคไม่ใช่มนุษย์ จึงหนีไปซ่อนตัวที่วัดมหาบุศย์ (ซึ่งถือเป็นเขตอภัยทาน ผีไม่สามารถล่วงล้ำได้) แม่นาคเสียใจและอาละวาด จนชาวบ้านหวาดผวาไปตามๆกัน ในที่สุด มีพระอาจารย์ผู้มีวิชาอาคม (บางตำนานระบุว่าเป็นสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)) มาปราบและปลดปล่อยดวงวิญญาณแม่นาคให้ไปสู่สุคติ ความเชื่อและวัดมหาบุศย์ ปัจจุบัน "วัดมหาบุศย์" (พระโขนง) เป็นสถานที่ที่คนไทยเชื่อว่าแม่นาคสถิตอยู่ และมีศาลแม่นาคพระโขนงให้สักการะ ซึ่งในแต่ละวันมีผู้คนจำนวนมากหลั่งไหลไปขอพรในเรื่องความรัก การมีลูก และการเดินทางปลอดภัยโดยเฉพาะเรื่อง ความรัก คนเชื่อว่าแม่นาคมีจิตเมตตา จะช่วยดลบันดาลให้สมหวังในความรัก ลักษณะของแม่นาคในตำนาน แม่นาคถูกพรรณนาเป็นหญิงสาวผมยาว สวมชุดไทยโบราณ (บางทีเป็นสีเขียวอ่อน) อุ้มทารก หรือมีลูกน้อยอยู่ด้วย มีบุคลิกที่เต็มไปด้วยความรักบริสุทธิ์ แต่ก็น่าสะพรึงกลัวเมื่อถูกพรากจากคนรัก แม่นาคในวัฒนธรรมสมัยใหม่ เรื่องแม่นาคพระโขนงได้รับการดัดแปลงหลายรูปแบบ เช่น ภาพยนตร์ชื่อดัง เช่น นางนาก (1999) และ พี่มาก..พระโขนง (2013) ที่เป็นเวอร์ชันตลก-รักโรแมนติก ละครเวที และนิยายหลายเรื่อง เพลงไทยเกี่ยวกับแม่นาคก็มีมากมาย เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับประวัติเรื่องเล่าและตำนานของย่านาคหรือแม่นาคพระขโนงที่เล่าสืบกันต่อๆกันมา ท่านเป็นหญิงที่มั่นคงในความรักแม้ว่าจะไม่อยู่ในโลกมนุษย์แล้วก็ตามแต่ความรักและความผูกพันกับพี่มากซึ่งเป็นคู่รักก็ไม่จางหายไปแม้แต่วินาทีเดียว ช่างเป็นเรื่องราวความรักที่นิรันด์และน่าหดหู่ในคราวเดียวเลย |
![]() ประวัติและตำนานการกำเนิดของพญาครุฑ ประวัติและตำนานการกำเนิดของพญาครุฑ พญาครุฑ เป็นสัตว์กึ่งเทพในตำนานที่สำคัญอย่างยิ่งในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และได้รับการนับถือแพร่หลายในวัฒนธรรมไทย ทั้งในฐานะสัญลักษณ์แห่งอำนาจราชวงศ์ และในทางศาสนา ต้นกำเนิดของพญาครุฑ 1. กัศยปะมุนี (ท้าวทัศรถ) และชายาทั้งสอง: กัศยปะมุนี: ในตำนานฮินดู กัศยปะมุนีเป็นหนึ่งในฤษีผู้ยิ่งใหญ่ เป็นบุตรของพระพรหม และถือเป็นบิดาแห่งสรรพสัตว์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเทพ อสูร มนุษย์ นาค ครุฑ และสัตว์ต่างๆ ในบริบทของไทย บางครั้งจะมีการเชื่อมโยงหรือเทียบเคียงกับท้าวทัศรถ (พระบิดาของพระรามในรามายณะ) ซึ่งแสดงถึงความสำคัญในฐานะผู้ให้กำเนิด นางวินตา (นางวิมาดา/นางทาสี): เป็นหนึ่งในชายาหลายองค์ของกัศยปะมุนี นางเป็นมารดาของพญาครุฑและอรุณ (สารถีของพระอาทิตย์) มีลักษณะเป็นผู้มีคุณธรรม แต่ต้องประสบเคราะห์กรรมจากการพนัน นางกัทรุ (นางกัทรี): เป็นชายาอีกองค์ของกัศยปะมุนี และเป็นมารดาของพญานาคทั้งปวง มีลักษณะเจ้าเล่ห์เพทุบาย ซึ่งเป็นชนวนเหตุของความบาดหมาง 2. การพนันและผลกรรม: เรื่องราวการพนันเกี่ยวกับสีของม้าอุไฉศรพเป็นจุดเริ่มต้นของความขัดแย้ง นางวินตาเห็นว่าม้ามีสีขาวบริสุทธิ์ แต่ด้วยกลอุบายของนางกัทรุที่สั่งให้เหล่านาคแปลงกายเป็นขนสีดำแทรกอยู่ในตัวม้า ทำให้นางวินตาเข้าใจผิดและแพ้พนัน ผลจากการแพ้พนัน ทำให้นางวินตาและอรุณผู้เป็นบุตรต้องตกเป็นทาสรับใช้นางกัทรุและเหล่านาคเป็นเวลานาน สภาพความเป็นทาสนี้สร้างความทุกข์ทรมานอย่างยิ่งให้กับนางวินตา 3. การปฏิสนธิและการประสูติของพญาครุฑ: ด้วยฤทธิ์อำนาจของกัศยปะมุนีและการบำเพ็ญตบะของนางวินตา พญาครุฑจึงปฏิสนธิในครรภ์ของนาง การตั้งครรภ์และการประสูติของพญาครุฑนั้นแตกต่างจากมนุษย์ทั่วไป กล่าวกันว่าเมื่อถึงกำหนดคลอด พญาครุฑได้กำเนิดออกมาพร้อมกับรัศมีอันเจิดจ้าและพลังมหาศาล ร่างกายขยายใหญ่จนทำให้โลกสั่นสะเทือน เหล่าเทพและฤษีต่างตกตะลึงในอานุภาพ บางตำนานกล่าวว่า พญาครุฑมีร่างกายเป็นกึ่งมนุษย์กึ่งนกอินทรี มีจะงอยปากและกรงเล็บที่แข็งแกร่ง ปีกขนาดใหญ่ที่สามารถพัดให้เกิดพายุได้ และมีพละกำลังมหาศาล 4. การรับรู้ถึงความทุกข์ของมารดาและการตัดสินใจช่วยเหลือ: เมื่อพญาครุฑเติบโตขึ้นและทราบถึงชะตากรรมอันน่าเศร้าของมารดาที่ต้องตกเป็นทาสรับใช้เหล่านาค ความกตัญญูและความโกรธแค้นก็ประทุขึ้นในใจ พญาครุฑตั้งใจแน่วแน่ที่จะช่วยเหลือมารดาให้พ้นจากพันธนาการนี้ แม้จะต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคและความยากลำบากเพียงใดก็ตาม 5. การเดินทางไปชิงน้ำอมฤต: เหล่านาคได้แจ้งเงื่อนไขแก่พญาครุฑว่า หากต้องการไถ่มารดาให้เป็นอิสระ จะต้องนำน้ำอมฤตจากสวรรค์มาให้ พญาครุฑจึงออกเดินทางไปยังสวรรค์เพื่อชิงน้ำอมฤต ซึ่งเป็นภารกิจที่เต็มไปด้วยอันตราย ต้องเผชิญหน้ากับการต่อสู้กับเหล่าเทพผู้รักษา รวมถึงพระอินทร์ผู้ทรงวัชระ ด้วยพละกำลังและฤทธิ์เดชอันเหนือกว่า พญาครุฑสามารถเอาชนะอุปสรรคต่างๆ และชิงน้ำอมฤตมาได้สำเร็จ 6. ข้อตกลงและการผิดสัญญาของนาค: เมื่อพญาครุฑนำน้ำอมฤตมาถึง เหล่านาคได้วางอุบายโดยขอให้วางน้ำอมฤตไว้บนพื้นและจะทำพิธีบูชาก่อนดื่ม เมื่อพญาครุฑวางน้ำอมฤต เหล่านาคก็รีบดื่มกินน้ำอมฤตก่อนที่พญาครุฑจะทันได้ไถ่มารดาอย่างสมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม ด้วยอำนาจของพระนารายณ์หรือด้วยอานุภาพของน้ำอมฤตเอง ทำให้เพียงแค่เลียน้ำอมฤต เหล่านาคก็ได้รับฤทธิ์เดชและความเป็นอมตะบางส่วน แต่ลิ้นของพวกเขาก็ถูกคมหญ้าบาด ทำให้ลิ้นของนาคจึงมีสองแฉกแต่นั้นมา (เป็นความเชื่อที่ปรากฏในบางตำนาน) 7. การได้รับพรและการเป็นพาหนะของพระนารายณ์: ด้วยความกล้าหาญ ความกตัญญู และพลังอำนาจของพญาครุฑ พระนารายณ์ทรงเล็งเห็นถึงคุณสมบัติอันโดดเด่น จึงประทานพรให้พญาครุฑเป็นอมตะโดยไม่ต้องดื่มน้ำอมฤต และให้มีอำนาจในการจับนาคกินได้ นอกจากนี้ พระนารายณ์ยังทรงเลือกพญาครุฑให้เป็นพาหนะประจำพระองค์ ซึ่งเป็นการยกย่องและแสดงถึงความสำคัญของพญาครุฑในจักรวาลวิทยา 8. บทบาทและความเชื่อในวัฒนธรรมไทย: ในวัฒนธรรมไทย พญาครุฑไม่ได้เป็นเพียงสัตว์ในตำนาน แต่ได้รับการยกย่องให้เป็น สัญลักษณ์แห่งสถาบันพระมหากษัตริย์ และ อำนาจแห่งรัฐ ปรากฏในตราแผ่นดิน ธงชาติ (ในอดีต) และสัญลักษณ์ของหน่วยงานราชการต่างๆ ความเชื่อใน อานุภาพการปกป้องคุ้มครอง จากภัยอันตราย สิ่งชั่วร้าย และคุณไสยต่างๆ เป็นสิ่งที่ฝังลึกในสังคมไทย การบูชาหรือการมีรูปเคารพพญาครุฑจึงเป็นที่นิยม พญาครุฑยังเป็นสัญลักษณ์ของ ความเจริญรุ่งเรือง ยศถาบรรดาศักดิ์ และความซื่อสัตย์ |
![]() พระพุทโธน้อย พระเครื่องในตำนาน - คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม พระพุทโธน้อยเป็นพระเครื่องที่มีความสำคัญและเป็นที่เคารพศรัทธาอย่างสูง สร้างโดยคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ฆราวาสผู้มีศีลาจารวัตรและญาณบารมีสูงยิ่ง ประวัติความเป็นมาของพระพุทโธน้อยและคุณแม่บุญเรือนมีความเกี่ยวข้องกันอย่างลึกซึ้ง คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม (พ.ศ. 2437 - 2507) ชาติกำเนิดและการศึกษา: คุณแม่บุญเรือน กลิ่นผกา เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2437 ที่คลองสามวา อำเภอมีนบุรี จังหวัดพระนคร (ปัจจุบันคือกรุงเทพมหานคร) ในครอบครัวที่ยากจน บิดาชื่อนายยิ้ม กลิ่นผกา มารดาชื่อนางสวน กลิ่นผกา แม้จะไม่ได้ร่ำเรียนในระบบ แต่ท่านเป็นผู้มีปัญญาเฉลียวฉลาด ใฝ่ในการศึกษาธรรมะ และปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด การปฏิบัติธรรมและญาณบารมี: คุณแม่บุญเรือนมีความศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างยิ่ง ท่านปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานอย่างต่อเนื่องและจริงจัง จนเชื่อกันว่าท่านบรรลุญาณขั้นสูง มีอภิญญา สามารถหยั่งรู้เหตุการณ์ต่างๆ และมีพลังจิตที่เข้มแข็ง ท่านเป็นที่เคารพเลื่อมใสในหมู่สงฆ์และฆราวาส การช่วยเหลือผู้อื่น: ด้วยเมตตาจิตและญาณบารมี คุณแม่บุญเรือนได้ช่วยเหลือผู้คนจำนวนมาก ทั้งในด้านการรักษาโรคภัยไข้เจ็บด้วยการอธิษฐานและน้ำมนต์ การให้คำแนะนำธรรมะ และการช่วยเหลือในด้านต่างๆ จนเป็นที่เลื่องลือและศรัทธา การสร้างวัตถุมงคล: คุณแม่บุญเรือนได้สร้างวัตถุมงคลหลายชนิด เพื่อเป็นที่ระลึกและเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจแก่ผู้ศรัทธา โดยวัตถุมงคลที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดคือ พระพุทโธน้อย พระพุทโธน้อย การสร้าง: พระพุทโธน้อยสร้างขึ้นที่วัดอาวุธวิกสิตาราม บางพลัดนอก ธนบุรี ในปี พ.ศ. 2494 โดยคุณแม่บุญเรือนได้ร่วมสร้างและอธิษฐานจิตปลุกเสก จำนวนพิมพ์และลักษณะ: พระพุทโธน้อยมีการสร้างหลายพิมพ์ |
![]() คาถาบูชาแม่บุญเรือน โตงบุญเติม คาถาพระฉิมพลี พลิกดวงให้มีแต่โชคลาภ คาถาพระฉิมพลี แม่ชีบุญเรือน โตงบุญเติม พลิกดวงให้โชคลาภ นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ ” นะชาลีติฉิมพาลี จะ มหาเถโร สุวรรณะมามา โภชนะมามา วัตถุวัตถามามา พลาพลังมามา โภคะมามา มหาลาโภมามา สัพเพชะนา พหูชะนา ภวันตุเม “ ข้าพเจ้า (ชื่อ-นามสกุล) ขออารธนาคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ช่วยอธิฐานสิ่งของที่ข้าพเจ้าได้นำมานี้ มี ผลไม้ ปูน ไพล และของทุกๆอย่าง ที่วางอยู่ ณ ที่นี้ ขอให้เป็นยาทิพย์ รักษาโรคให้หายสิ้น ให้แนวชีวิตรุ่งโรจน์ และมีอายุยืน ด้วยเทอญ ขอบารมีคุณแม่เป็นที่พึ่งฯ บทสวดตามกำลังวัน วันอาทิตย์ 6 จบ วันจันทร์ 15 จบ วันอังคาร 8 จบ วันพุธ 17 จบ วันพฤหัสบดี 19 จบ วันศุกร์ 21 จบ วันเสาร์ 10 จบ ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลบทสวดจากวัดสัมพันธวงศ์ |
![]() ประวัติคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ฆราวาสผู้เปี่ยมด้วยธรรม กำเนิดและชีวิตในวัยเยาว์ คุณแม่บุญเรือน กลิ่นผกา (นามสกุลเดิม โตงบุญเติม) เกิดเมื่อวันอาทิตย์ เดือน 4 ปีมะเมียขึ้น 15 ค่ำ เวลา 11.20 น. หรือตรงกับวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2437 ท่านเกิดในครอบครัวที่ค่อนข้างยากจน ณ ตำบลบางระโหง อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (ปัจจุบันคืออำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา) บิดาของท่านคือนายยิ้ม กลิ่นผกา มารดาคือนางสวน กลิ่นผกา คุณแม่บุญเรือนได้รับการอบรมเลี้ยงดูจากบิดามารดาเป็นอย่างดี ท่านได้รับการศึกษาให้รู้ภาษาไทยพออ่านออกเขียนได้ ท่านมีความสามารถในการทำอาหารเยี่ยมยอด เย็บปักถักร้อยได้ และมีความสามารถพิเศษในการนวดแผนไทย ซึ่งได้รับการถ่ายทอดวิชาจากปู่ของท่านคือ อาจารย์กลิ่น หมอนวดที่มีชื่อเสียง ชีวิตครอบครัว คุณแม่บุญเรือนสมรสกับนายโตงบุญเติม มีบุตรด้วยกัน 2 คน แต่ชีวิตคู่ของท่านไม่ได้ราบรื่นนัก ท่านจึงตัดสินใจแยกทางกับสามี และหันหน้าเข้าสู่เส้นทางธรรมะ การบำเพ็ญเพียรทางจิต คุณแม่บุญเรือน เริ่มต้นการบำเพ็ญเพียรทางจิตโดยศึกษาเล่าเรียนวิชาอาคมและไสยเวทจากพระอาจารย์หลายท่าน ท่านมีความมุ่งมั่นตั้งใจศึกษาหาความรู้จนบรรลุวิชาชั้นสูง กิตติศัพท์และปาฏิหาริย์ คุณแม่บุญเรือน โด่งดังจากกิตติศัพท์เรื่องความศักดิ์สิทธิ์และปาฏิหาริย์มากมาย ผู้คนต่างหลั่งไหลมาขอพรและรับการรักษาจากท่าน ท่านมีเมตตาสูง ช่วยเหลือผู้คนโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ในปี พ.ศ. 2499 คุณแม่บุญเรือนได้ริเริ่มก่อตั้งวัดอาวุธวิกสิตาราม ท่านใช้ชีวิตที่วัดแห่งนี้จนกระทั่งมรณภาพเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2524 ศิษย์เอกและผู้สืบทอดเจตนารมณ์ คุณแม่บุญเรือนมีศิษย์เอกมากมาย ท่านที่โด่งดังที่สุดคือ อาจารย์ยอด ศรีจำลอง ศิษย์ผู้ใกล้ชิดที่สืบทอดวิชาและเจตนารมณ์ของท่าน ความเชื่อและศรัทธา ปัจจุบัน คุณแม่บุญเรือน ยังคงเป็นที่เคารพศรัทธาของผู้คนจำนวนมาก วัตถุมงคลของท่าน เช่น เหรียญ รูปหล่อ ตะกรุด ยังคงเป็นที่นิยมเสาะหา ผู้คนต่างเชื่อกันว่า วัตถุมงคลเหล่านี้มีพลังศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถช่วยดลบันดาลให้สมหวังในสิ่งที่ปรารถนา คาถาพระฉิมพลี แม่ชีบุญเรือน โตงบุญเติม พลิกดวงให้โชคลาภ นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ ” นะชาลีติฉิมพาลี จะ มหาเถโร สุวรรณะมามา โภชนะมามา วัตถุวัตถามามา พลาพลังมามา โภคะมามา มหาลาโภมามา สัพเพชะนา พหูชะนา ภวันตุเม “ |
|
ดูทั้งหมด |
![]() Siripremiumclothings ร้านเสื้อผ้านำเข้าแบรนด์เกาหลี ยอดนิยมในประเทศไทย ที่ห้ามพลาด หากวันนี้พูดถึงร้านเสื้อผ้าแฟชั่นสไตล์เกาหลีเกรดพรีเมียม ณ เวลานี้คงไม่มีใคร ไม่รู้จักร้าน Siripremiumclothings เสื้อผ้าแฟชั่น นำเข้าจากเกาหลี ที่ร้านนี้คัดสรรเลือกมาให้คนไทยได้เลือกซื้อแล้ว ที่สำคัญเขาคัดคุณภาพเกรดพรีเมียม และเหมาะสมกับสภาพอากาศเมืองไทยได้ดีสุดๆ ช่องทางการขาย : Instagram, Facebook, Tiktok ความน่าเชื่อถือ : 10/10 ด้วยจำนวนยอดผู้ติดตามเกือบแสนคน เราจึงเชื่อมั่นได้ว่าร้านนี้มีความน่าเชื่อถือและโดดเด่นที่สูงเลยทีเดียว ช่องทางการติดต่อ : สามารถสอบถามข้อมูลทาง Line Official ของทางร้าน ลิงค์นี้เลย Line @siriclothings ร้านนี้มีสิทธิพิเศษมากมายให้กับผู้ซื้ออย่างเราๆ อีกด้วย เช่น การจัดส่งฟรี สะสมเหรียญเพื่อใช้เป็นส่วนลด และกิจกรรมอื่นๆที่ทางร้านกำหนด linea นอกจากนี้ร้านนี้เขามีระบบที่ดีมากๆ โดยลูกค้าที่มีประวัติการสั่งซื้อสินค้ากับทางร้านสามารถตรวจสอบออเดอร์ของตนเอง ประวัติการสั่งซื้อ ตรวจสอบคะแนนสะสม และตรวจสอบสถานะการจัดส่งสินค้าได้ด้วยตนเองอีกด้วย ถือว่ามีความโดดเด่นและอำนวยความสะดวกให้ลูกค้ามากๆ เลยทีเดียว |
![]() รีวิว ipsa skincare powder แป้งตัวดังแบบผู้ใช้งานจริง แป้ง IPSA Skincare Powder คืออะไร? แป้ง IPSA Skincare Powder เป็นแป้งฝุ่นอัดแข็งเนื้อบางเบา โปร่งแสง ที่ทำหน้าที่เหมือนมาส์กบำรุงผิว ช่วยเซ็ตสกินแคร์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ควบคุมความมัน ล็อคชุ่มชื้น ลดความหมองคล้ำ เหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวมันและผิวผสม ดีไหม? ข้อดี: ช่วยเซ็ตสกินแคร์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ควบคุมความมันได้ดี ล็อคชุ่มชื้น ลดความหมองคล้ำ เนื้อแป้งบางเบา โปร่งแสง ไม่หนักหน้า เหมาะกับทุกสภาพผิว ทาแล้วหน้าดูสว่างใสขึ้น รูขุมขนดูเล็กลง ใช้แล้วไม่รู้สึกถึงความแป้งๆบนผิว ตื่นมาหน้าเนียนนุ่ม ชุ่มชื้น ข้อเสีย: ราคาค่อนข้างสูง มีเฉดสีให้เลือกไม่มาก วิธีใช้: ทาครีมบำรุงผิวหน้าให้เรียบร้อย ใช้พัฟแตะแป้งเบาๆ ทั่วใบหน้า สามารถทาเพิ่มระหว่างวันเพื่อเติมความสดชื่นให้กับผิวหน้า ส่วนประกอบหลักๆ Mica (แร่เหล็ก) Titanium Dioxide (ไทเทเนียมไดออกไซด์) Silica (ซิลิกา) Zinc Oxide (สังกะสีออกไซด์) Iron Oxide (เหล็กออกไซด์) Boron Nitride (โบรอนไนไตรด์) Tocopheryl Acetate (วิตามินอี) Methicone (เมทิโคน) Dimethicone (ไดเมทิโคน) Polysilicone-8 (โพลีซิลิโคน-8) Lauryl Methacrylate/Methyl Methacrylate Crosspolymer (ลอริล เมทาคริเลต/เมทิล เมทาคริเลต ครอสโพลีเมอร์) Stearyl Glyceryl Caprylate (สเตียริล กลีเซอรีล แคปริเลต) Triethylhexanoin (ไตรเอทิลเฮกซาโนอิน) Mica (แร่เหล็ก) Titanium Dioxide (ไทเทเนียมไดออกไซด์) Silica (ซิลิกา) Iron Oxide (เหล็กออกไซด์) Boron Nitride (โบรอนไนไตรด์) Tocopheryl Acetate (วิตามินอี) Methicone (เมทิโคน) Dimethicone (ไดเมทิโคน) Polysilicone-8 (โพลีซิลิโคน-8) Lauryl Methacrylate/Methyl Methacrylate Crosspolymer (ลอริล เมทาคริเลต/เมทิล เมทาคริเลต ครอสโพลีเมอร์) Stearyl Glyceryl Caprylate (สเตียริล กลีเซอรีล แคปริเลต) สรุป แป้ง IPSA Skincare Powder เป็นแป้งฝุ่นอัดแข็งที่มีคุณสมบัติช่วยบำรุงผิว ควบคุมความมัน และทำให้ผิวหน้าดูเรียบเนียน เหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวมันและผิวผสม อย่างไรก็ตาม แป้งชนิดนี้อาจจะมีราคาค่อนข้างสูง ก่อนตัดสินใจซื้อ แนะนำให้ลองทดสอบผลิตภัณฑ์บนท้องแขนก่อนเพื่อดูว่าแพ้หรือไม่ |
|
ดูทั้งหมด |
![]() วิธีปลูกและดูแลจามาคารู Cereus jamacaru เมื่อพูดถึงจามาคารูหนามกุดที่กำลังเป็นที่นิยม ทุกคนรู้หรือไม่ครับว่าจริงๆแล้วมาจากจามาคารูหนามยาว Cereus Jamacaru วันนี้พามาทำความรู้จักกับจามาคารูกัน ต้นกำเนิดของจามาคารูหนามกุด เดิมทีสายพันธุ์ดั้งเดิม Cereus jamacaru มาจาก บราซิล โดยเฉพาะในภูมิภาคเขตร้อนและกึ่งแห้งแล้ง เช่น พื้นที่เซอราดู (Cerrado) และคาอาติงกา (Caatinga) ซึ่งเป็นเขตธรรมชาติในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของบราซิล ส่วน หนามกุด หรือ “Short Spine” เป็นลักษณะ “กลายพันธุ์” ทางธรรมชาติหรือเกิดจากการคัดพันธุ์โดยมนุษย์ ซึ่งเน้นความแปลก เช่น หนามสั้นหรือเกือบไม่มีหนาม ลำต้นอวบแน่น รูปร่างไม่สมมาตร (บางต้นจะดูแปลกตา) มีการเพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์กันมากใน ญี่ปุ่น, ไทย, เกาหลี และจีน จนได้รับความนิยมในกลุ่มนักสะสมไม้ประหลาด (mutant cactus) ความแตกต่างจากจามาคารูปกติ ลักษณะ จามาคารูธรรมดา จามาคารูหนามกุด หนาม ยาว แหลม คม สั้นมาก หรือแทบไม่มี ลำต้น ทรงสูง เพรียว อวบ กลม บิดเบี้ยว สี เขียวอ่อนถึงเข้ม เขียวเข้มอมเทา หรือมีลายขาว ความนิยม ทั่วไป นิยมในกลุ่มไม้แปลก การปลูกในประเทศไทย จามาคารูสามารถปลูกในประเทศไทยได้ดี เพราะทนแล้งและแดดจัดได้เยี่ยม เหมาะกับอากาศร้อนชื้นของบ้านเรา โดยเฉพาะภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วิธีการปลูกจามาคารู ปลูกจากเมล็ด: แช่เมล็ดในน้ำ 1 คืน แล้วเพาะในดินร่วนผสมทราย รดน้ำพอชื้น ปลูกจากกิ่ง: ตัดกิ่งที่แข็งแรง ปล่อยให้แห้ง 2-3 วัน แล้วนำลงดิน ใช้กระถางลึก หรือปลูกลงดินในสวนได้เลย การดูแลต้นจามาคารู แสงแดด: ชอบแดดจัดมาก ควรวางไว้ที่โดนแดดทั้งวัน น้ำ: รดน้ำ 1-2 ครั้ง/สัปดาห์ ไม่ควรรดบ่อยจนแฉะ ดิน: ดินร่วนปนทราย หรือดินสำหรับกระบองเพชร ระบายน้ำดี ปุ๋ย: ใส่ปุ๋ยสูตรเสมอ (เช่น 15-15-15) เดือนละครั้ง ศัตรูพืช: เพลี้ยแป้งอาจมาเกาะบ้าง ควรหมั่นตรวจ การออกดอกและผล ออกดอกช่วงฤดูร้อนถึงต้นฝน ดอกมีขนาดใหญ่ สีขาว มีกลิ่นหอม ออกตอนกลางคืน หลังดอกบาน จะติดผลเป็นลูกกลมเล็ก สีม่วงเข้มหรือแดง มีเนื้อหวานและเมล็ดเล็กๆ คล้ายผลของพวกตะบองเพชร การบานของดอกจามาคารู เวลาที่ดอกบาน ดอกของจามาคารูจะบานในช่วงกลางคืน (ช่วง 7 โมงเย็นถึง 8 โมงเช้า) โดยเริ่มจากการบานในช่วงเย็นและจะค่อยๆ เปิดเต็มที่ในช่วงกลางคืน ดอกจะบานอยู่ประมาณ 1-2 วันเท่านั้น ลักษณะของดอก ดอกมีขนาดใหญ่ (ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 15-25 เซนติเมตร) สีดอกจะเป็นสีขาวหรือสีครีม มีเส้นใยสีเหลืองบริเวณก้านดอก ดอกมักมี กลิ่นหอม ที่ดึงดูดแมลงเช่นผึ้งและมวนชนิดต่างๆ มาเพื่อช่วยผสมเกสร ระยะเวลาในการบาน ดอกจะบานเพียงครั้งเดียว และเมื่อดอกโรยแล้วมันจะไม่กลับมาบานใหม่ในครั้งถัดไป การติดผลของจามาคารู การผสมเกสร กระบองเพชรจามาคารูจะติดผลได้หากได้รับการผสมเกสรจากแมลงหรือแม้กระทั่งมนุษย์ที่ช่วยในการผสมเกสรด้วยมือ ผลจะเริ่มเติบโตหลังจากที่ดอกโรย โดยจะเริ่มจากการพัฒนาเป็นผลที่มีลักษณะคล้ายผลไม้เล็กๆ การติดผล ผลของจามาคารูจะมีขนาดใหญ่และสามารถโตได้ถึง 15-20 เซนติเมตร โดยอาจมีลักษณะคล้ายผลไม้สีเขียวหรือสีเหลืองเมื่อสุก ผลจะมีลักษณะเปลือกแข็งภายในมีเมล็ดหลายเมล็ด หลังจากผลสุกเต็มที่ประมาณ 3-6 เดือน ผลสามารถตกลงพื้นหรือถูกเก็บเกี่ยวได้ การเพาะพันธุ์จากผล เมล็ดที่ได้จากผลสามารถนำมาเพาะปลูกเพื่อขยายพันธุ์ได้ ผลของจามาคารูบางครั้งใช้ในการผลิตเมล็ดพันธุ์หรือขยายพันธุ์เพื่อการเก็บสะสมไม้ประดับ |
![]() ปลูกพริกขี้หนูสวนในกระถางอย่างไรให้ลูกดกและงาม พริกขี้หนูสวน (Capsicum frutescens) เป็นพืชตระกูลพริกที่ได้รับความนิยมในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน มีรสเผ็ดร้อน มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว และเป็นส่วนประกอบสำคัญในอาหารไทยหลายเมนู เชื่อว่าพริกขี้หนูสวนมีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาใต้และถูกนำเข้ามาในเอเชียรวมถึงประเทศไทยในช่วงการติดต่อค้าขายกับต่างชาติ ปัจจุบันนิยมปลูกทั้งเพื่อการค้าและใช้ในครัวเรือน |
![]() การปลูกต้นอัญชัน ประโยชน์และสรรพคุณของอัญชัน อัญชัน (Butterfly Pea) เป็นพืชดอกไม้สวยงามที่มีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนของเอเชีย โดยเฉพาะในประเทศไทย อินเดีย และแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเติบโตในป่าและภูเขา อัญชันเป็นที่รู้จักและปลูกเพื่อนำมาทำเป็นเครื่องดื่มสีฟ้าสดใส รวมถึงใช้เป็นสมุนไพรในหลายประเทศ ชื่อวิทยาศาสตร์ อัญชันมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Clitoria ternatea อยู่ในวงศ์ Fabaceae หรือวงศ์ถั่ว มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Butterfly Pea หรือ Blue Pea วิธีการดูแลปลูกต้นอัญชัน แสงแดด: อัญชันเป็นพืชที่ต้องการแสงแดดมาก ดังนั้นควรปลูกในที่ที่มีแสงแดดตลอดวัน ดิน: ควรปลูกในดินร่วนที่ระบายน้ำดีและมีความอุดมสมบูรณ์ สามารถปลูกได้ในดินทั่วๆ ไป แต่ดินร่วนจะให้ผลที่ดีที่สุด น้ำ: ต้องการน้ำปานกลาง ควรรดน้ำให้ชุ่มแต่อย่าให้มีน้ำขัง การใส่ปุ๋ย: ควรใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเมื่อเริ่มปลูกและระหว่างที่ต้นเติบโต การดูแลอื่นๆ: หากปลูกในกระถาง ควรมีไม้ค้ำเพื่อให้ต้นสามารถเลื้อยขึ้นได้ง่าย ประโยชน์และสรรพคุณ อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ: อัญชันมีสารแอนโทไซยานิน ซึ่งช่วยบำรุงสายตา ป้องกันโรคที่เกี่ยวกับตา และช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ช่วยเพิ่มความจำและบำรุงสมอง: สารในอัญชันสามารถช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบประสาท ช่วยเพิ่มความจำ และลดความเครียด บำรุงเส้นผม: น้ำอัญชันใช้หมักผม ช่วยทำให้ผมดกดำและแข็งแรง การใช้ในอาหารและเครื่องดื่ม: ดอกอัญชันสามารถนำมาทำเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เช่น ชาอัญชัน หรือนำไปใช้ทำขนมไทยให้สีธรรมชาติสวยงาม |